ข้อมูลจากผม "เรื่องลัทธิอุบาทว์ ธรรมกาย-ธัมมชโย" --- Prayat


[ Follow Ups ] [ Post Followup ] [ Sensitive Forum ] [ FAQ ]

Posted by prayat on December 25, 1998 at 00:02:40:

วัดธรรมกาย :
องค์กรอาชญากรรม หรือสถานปฏิบัติธรรม

“ทะเลไม่รักษาซากศพ ย่อมซัดเข้าหาฝั่งหรือเป็นอาหารของปลาและเต่า ฉันใด พระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า ก็ไม่รักษาภิกษุอลัชชีไว้ ฉันนั้น”
พระพุทธพจน์บทนี้ ช่างเสียดแทงใจดำของ “พระภิกษุผู้นิยมผัดเผ็ดปลาช่อนขี้เมา” เสียจนอดหวาดเสียวแทนมิได้
ข่าวคราวความอื้อฉาวของ “สำนักวัดพระธรรมกาย” ซึ่งมี พระชัยบูลย์ ธัมมชโย และ พระเผด็จ ทัตตชีโว เป็นผู้ปกครองกุมอำนาจทั้งการบริหาร การเงิน พาณิชยกรรม กิจการอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ เป็นที่โจษขานอึ่งมี่ในสังคม จากสื่อมวลชน ทั้งหน้าหนังสือพิมพ์ สื่อวิทยุ-โทรทัศน์ สภานิติบัญญัติ สภากาแฟ และแม้กระทั่งวงดื่มเบียร์สดหน้า เวิล์ดเทรดเซ็นเตอร์ (ไม่ทราบว่า มีวาณิชธนกิจ ปริวรรตเงินตรา หรือโจมตีเงินสกุลในประเทศด้อยพัฒนาด้วยหรือไม่ ยังไม่มีใครกล่าวถึง แต่มีคนแพลมๆ ถึงแชร์ชม้อยในอดีต รวมกระทั่งเกี่ยวพันกับการปั่นหุ้นของเสี่ยสอง วัชรศรีโรจน์ ซึ่งมีน้องชายชื่อ สมชาย วัชรศรีโรจน์ บวชเป็นสาวกเอกของวัดธรรมกายด้วย)
ทั้งการดำเนินงาน กิจกรรม วัตรกรรมของผู้กุมอำนาจ ณ สำนักแห่งนี้ ก็ยิ่งกระเดื่องกิตติศักดิ์ลือนามติดหูติดตาน่าครหาของชาวบ้าน ทั้งอุปนิสัยและวิธีการประกอบกรรมาชีพเพื่อให้ได้มาทั้งเงินและทอง ช่างประสบสำเร็จเสร็จสมสุดฤทธิ์สุดเดชเสียกระไร ยากที่จะมีนักธุรกิจเก่งๆ คนใดทำได้ในยุค IMF ถ้าจะเรียกว่าเป็น “High Profile High Profit” คงจะน้อยไปด้วยซ้ำกระมัง
ข้อกล่าวหาอันรุนแรงจากพุทธศาสนิกชน ที่มีต่อท่าน “พระศาสดาต้นธาตุต้นธรรม” หลายข้อหาเป็น “โทษประหารชีวิตในทางศาสนจักร” ได้แก่
1. มีความใกล้ชิดสนิทแนบแน่นกับบริษัทสี่ที่เป็นมาตุคาม คือ อุบาสิกา (สีกา) หลายคน เช่น
จิรวัฒน์ ศรีสัตนา (อี๊ด) อดีตภรรยารองผู้ว่าฯ อยุธยา ผู้กุมอำนาจการจัดการธุรกิจในเครือข่ายธรรมกายนับสิบบริษัท ข่าวว่าปัจจุบันได้หย่าขาดกับสามีอดีตรองผู้ว่าฯ สุนทร ศรีสัตนา (ซึ่งมีบ้านอยู่ติดแม่น้ำ ใกล้ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร)
เพียงนิล ศิริเกษม (ปุ๊) อดีตเมียน้อยเสียพะ สุวิทย์ มหาแถลง ได้รับมรดกจากสามีเป็นทรัพย์สินมหาศาล มีคฤหาสน์ใหญ่โตอยู่ซอยอินทามระ 22 เหมือนฮาเร็มของคนใหญ่โตในอดีต (ไม่ทราบจะเป็นฮาเร็มของธัมมชโยด้วยหรือไม่ ยังไม่มีใครยืนยัน) แต่มีข่าวลือว่า วันที่พระธัมมชโยกลับจากเชียงใหม่ มักบอกลูกศิษย์ให้มารับที่ดอนเมืองตอนบ่าย ความเป็นจริงกลับมาถึงดอนเมืองตอนเช้ามืด แล้วแว่บไปเยี่ยมสีกาปุ๊ที่อินทามระ 22 ก่อน ตกบ่ายก็ย้อนกลับไปดอนเมืองตรงเวลาที่ลูกศิษย์มารับพอดี
วิชยา ไตรวิเชียร (นัส) อดีตสาวน้อยผู้สดใส แห่งรั้วเกษตรศาสตร์บางเขน ผู้ที่ธัมมชโยฟูมฟักทะนุถนอม ส่งเสียให้เรียนหนังสือจนจบกระบวนการ ปัจจุบันเป็นผู้ที่เข้านอกออกในกุฏิอันลึกลับชั้นในของวัดธรรมกาย ซึ่งเป็นที่พำนักของศาสดาธัมมชโย น้องนัสจะเป็นผู้จัดโปรแกรมการเข้าพบของเศรษฐีมหาเศรษฐี เป็นผู้ที่ธัมมชโยโปรดปรานและไว้วางใจเป็นที่สุด ที่สำคัญยิ่งคือ น้องนัสย้ายเคหสถานไปพำนักอยู่ในวัดธรรมกายมานับสิบปีแล้ว
กรกมล ไทยอยู่ หรือสีกาตุ๊ ปัจจุบันต้องร้างลาจากวงการ เพราะได้ข่าวว่าสามี คุณชาติชาย ไทยอยู่ ไม่พอใจอย่างรุนแรง จนถึงขั้นต้องบ้านแตกสาแหรกขาด หย่ากันในทางนิติกรรมเรียบร้อยโรงเรียนธรรมกายแล้ว
สงบ ปัญญาตรง ภรรยานายแพทย์ประชา ปัญญาตรง แห่งจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งดินแดนทางภาคเหนือล้านนาไทย เป็นที่ชื่นชอบอภิรมย์ของ “ศาสดา” เป็นที่ยิ่ง ความสดชื่นตามธรรมชาติผสมกับความน่ารักของอิสตรี ช่างเป็นที่โปรดปรานจนแทบจะไม่อยากร้างลาจากถิ่นไทยงามแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว
รายนามสีกาดังกล่าวข้างต้น ยังไม่รวมถึงเด็กสาว “โครงการพรหมจรรย์อภิญญา” ที่พ่อแม่ผู้ปกครองยกให้เป็นบุตรบุญธรรมแก่พระธัมมชโย ด้วยความเชื่องมงายว่าเด็กมีวิญญาณบริสุทธิ์ที่หลวงพ่อจะนำพาขึ้นสู่สรวงสวรรค์ชั้นยามา-ดุสิต ไม่ทราบจะมีเด็กพรหมจรรย์เหล่านี้อีกจำนวนเท่าไหรที่แวดล้อมเป็นบริวารอยู่
รายนามสีกาและเหล่าดรุณีน้อยพรหมจรรย์ข้างต้น จะมีความสัมพันธ์กับ “ศาสดา” ถึงขั้น “ประกอบเมถุนกรรมทำสังวาส” กันหรือไม่ ไม่มีใครทราบความจริง นอกจากผู้เสพและผู้ให้เสพเพียง 2 คนเท่านั้น (ดูแล้วน่าสงสัยว่า เพราะสีกาแต่ละคน “อื๋มทรงเครื่อง” ตรงสเป๊กศาสดา
ทั้งนั้น)

2. อวดอ้างอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่ไม่เคยมี (ไม่เคยเชื่อว่ามี) เช่น
อ้างว่าเป็นผู้ติดต่อสื่อสารกับพระพุทธเจ้าในอดีตชาตินับอสงไขยไม่ถ้วน, อ้างว่าถ้าทำบุญอาทิตย์ต้นเดือน (เงินเดือนกำลังออกหมาดๆ) จะได้ถวายกับพระอรหันต์สมณโคดมโดยตรง, อ้างว่าเคยแว่บขึ้นสวรรค์เจอะโยมมารดาเสวยสุขเป็นเทพธิดา เอ่ยปากขออาศัยอยู่กับโยมมารดา แต่โยมมารดาบอกว่าลูกมีภารกิจที่จะต้องพามนุษย์ข้ามวัฏสงสาร จึงต้องเหาะตัวเขียวๆ ย้อนกลับมาสู่โลกมนุษย์ดังเดิม, อวดอ้างว่าตนเป็นต้นธาตุต้นธรรม พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ล้วนอุบัติมาจากต้นธาตุต้นธรรม “ชัยบูลย์” ทั้งสิ้น, อวดอ้างว่าอภินิหารหลวงพ่อสดลอยอยู่กลางดวงอาทิตย์ (ซึ่งร้อนแรงนับล้านองศา ไม่ทราบคิดวิปัลลาสอะไร ทำไมไม่อยู่ที่เย็นๆ กว่านี้) ซูมเข้าซูมออก วงกลางท้องเป็นธรรมกายดั่งอายตนนิพพานโน่น เป็นต้น
หากเพียงข้อกล่าวหา 2 ข้อนี้เป็นจริงขึ้นมา ท่านผู้มีอาชีพ “ศาสดา” ย่อมต้องโทษประหารทางพระพุทธศาสนา เป็นปาราชิกบุคคล ขาดจากความเป็นพระสงฆ์สาวกโดยสิ้นเชิงแล้ว ไม่มีสิทธิห่มผ้ากาสาวพัตร ไม่มีสิทธิรับบริจาค ไม่มีสิทธิเป็นเนื้อหาบุญ ไม่มีสิทธิบอกบุญ ไม่มีสิทธิแต่งกายแบบพระสงฆ์ และไม่มีสิทธิทำสังฆกรรมใดๆ อีกต่อไป
ข้อกล่าวหาอันหนักหน่วงถึงขั้น “ประหารชีวิต” เช่นนี้ ท่านศาสดาแห่งการตลาดหลายชั้น ยังเงียบหง่าวเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่กล้าปรากฏทั้งภาพและเสียงต่อสาธารณชน แม้เสียงปลิวสยายประกายรัศมีของจีวรป่านสวิส ก็ไม่เคยกล้ำกรายต่อสายตากัลยาณมิตรผู้หิวโหยคำตอบ!!
ยังมีข้อกล่าวหาแยกย่อยอีกนานัปการ เช่น มีข้อสงสัยเรื่อง พระชิดชัย มหาชิโต (วิญญู
นันทกุล) เสียชีวิตภายในวัดโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2532 ญาติพี่น้องขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีนิยม แต่ทางวัดกลับจัดการฌาปนกิจเสร็จสรรพทั้งที่ไม่เคยมีเมรุเผาศพในวัด, ยักย้ายถ่ายโอนเงินทองไปแอบซื้อทรัพย์สินที่ดินหลายจังหวัดในนามส่วนตัว เช่น พิจิตร เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ เลย (ภูเรือ) เชียงราย เลย โคราช ตราด ฯลฯ หากไม่เป็นสมบัติในนามส่วนตัว ก็ปรากฏเป็นชื่อของสีกาอี๊ดคนสนิท หรือลิ่วล้อบริวารเข้าไปเอี่ยวมีผลประโยชน์ทั้งโดยตรงและโดยอ้อมกันบานเบอะ, การบังคับซื้อบังคับขายที่ดินหลายบริเวณ มีการแต่งเติมหรืออาจใช้เอกสารปลอมเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิครอบครอง เป็นต้น
มีข้อน่าสงสัยเรื่อง โฆษณาชักชวนประชาชนให้บริจาคเงินทองเพื่อหล่อรูปหลวงพ่อสดทองคำบริสุทธิ์ 1,000 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน แต่พอหล่อจริงเข้ากลับเหลือแค่ 420 กิโลกรัมเท่านั้น
มีข้อน่าสงสัยในอุปนิสัยหรือพฤติกรรมไม่เหมาะสมแก่สมณเพศ เช่น ผิดปาริสุทธิศีล 4 อาชีวปาริสุทธิศีล เป็นการเลี้ยงชีพโดยมิชอบ หลอกลวงประชาชนเลี้ยงชีพ, ปัจจัยสันนิสิตศีล บริโภคปัจจัย 4 ที่ประชาชนถวายด้วยอารมณ์แห่งตัณหา พิจารณาเสพด้วยความไม่รู้จักประมาณ ให้เหมาะสมแก่สมณเพศ เช่น สั่งอาหารเมนูเด็ดจากภัตตาคารชั้นเยี่ยม, อบผิวด้วยสมุนไพรหรือใช้สบู่ยี่ห้อแพงหูฉี่จากต่างประเทศ, ใช้ชีวิตหรูหราในคฤหาสนถ์ห้องหับอันหรูหรา ประดับประดาด้วยเฟอร์นิเจอร์ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ผู้กล่าวหาบางรายเคยย้ำว่า มีเครื่องเล่น CD.-ROM และมีแผ่น Movies – CD ระดับเกรด X, R ฉายพิจารณารูปทรงสังขารหลากลีลา เป็นต้น
และมีข้อกล่าวหาอีกมากมาย ยากจะบรรยายให้จบในวันเวลา และข้อจำกัด ณ วันนี้ได้
ถ้าจะเปรียบเทียบกับโทษอาญาบ้านเมืองแล้วละก็ “พระธัมมชโย ก็คือจำเลยข้อหาข่มขืนแล้วฆ่า มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต แถมยังติดยาเสพย์ติด ติดเอดส์ มีกลากเกลื้อนเต็มร่างกาย จนสังคมรังเกียจไม่อาจคบค้าสมาคมด้วยอีกแล้ว”
การดำเนินงานของ “สำนักพระธรรมกาย” ในวันนี้ ดำเนินไปท่ามกลางข้อกล่าวหาและข้อสงสัยมากมาย แต่ “ศาสดาต้นธาตุต้นธรรม” หรือ “ท่านรอง” ก็หาได้ออกมาย่างกรายเอ่ยปากใดๆ เพื่อคลายความสงสัยของประชาชนไม่ กลับปล่อยความอึมครึมครอบคลุมไปทุ่งหัวระแหง ทำให้ประชาชนชาวพุทธเสื่อมศรัทธาต่อระบบองค์กรในศาสนาพุทธนับวันยิ่งมากขึ้นๆ “ท่านรอง” เคยออกมาตอบคำถามสื่อมวลชนครั้งหนึ่งก็แสดงออกด้วยผรุสวาจาหยาบคาย อารมณ์โกรธขึ้งเคียดแค้น ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นผู้บรรลุอายตนนิพพานธรรมกายดังที่เอ่ยอ้างเลย
การปิดปาก ไม่เปิดเผย ไม่ตอบโต้ ไม่ชี้แจงแถลงไข ปกปิดความจริง รายงานเท็จของมูลนิธิ ยักยอก ถ่ายโอนทรัพย์สินจากส่วนรวมเป็นของตน และพฤติกรรมรุนแรงและบุคลากรหรือนิติบุคคลวัดธรรมกายดังกล่าวข้างต้น เป็นการดำเนินการดั่ง ”องค์กรอาชญากรรม (Criminal Organization)” อันลี้ลับซับซ้อน ประหนึ่งขบวนการค้าโคเคนยาเสพติดของมาเฟียโคลัมเบีย ที่มีกลไกสั่งการตัดตอนจนยากจะสาวไปหาผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังอันแท้จริงได้
เหตุไฉนจึงต้องกล่าวหาว่ารุนแรงว่าเป็น “องค์กรอาชญากรรม” จะไม่กล่าวหากันรุนแรงหรือมีอคติเกินไปหรือ?, จะไม่เป็นการละเมิดสิทธิของบุคคลอื่นเกินไปหรือ ?

(ยังมีต่อ ยังเขียนไม่จบ รอเวลาอีกสักนิด - ประหยัด)
_________________________________________________


ข้อมูลธุรกิจวัด ธมก.

ข้อสังเกตก่อนอ่าน นางจิรวัฒน์ ศรีสัตนา หรือ สีกาอี๊ด มีสามีชื่อ สุนทร ศรีรัตนา อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดอยุธยา ปัจจุบันมีบ้านพักติดกับศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ติดกับที่ดินของ ธัมมชโย ข่าวบอกว่า ธัมมชโย ได้เสพสังวาสกับสีกาคนนี้ จนคุณสุนทรไม่พอใจ ขอหย่าขาด แต่ตอนหลังคุณสุนทรก็ได้รับการอุปถัมภ์จากสีกาอี๊ดให้เจริญก้าวหน้าทางราชการ และทางสีกาอี๊ดเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในวัด ธมก. ร่วมกับ เพียงนิล ศิริเกษม หรือสีกาปุ๊ ผู้มีบ้านอยู่อินทาระ 22 หลังใหญ่โต และเป็นฮาเร็มของธัมมชโย อดีตภรรยาน้อยของเสี่ยพะ สุวิทย์ มหาแถลง เสี่ยพะตายแล้ว สีกาปุ๊ได้รับมรดกมหาศาล สีกาอี๊ดกับสีกาปุ๊เคยทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องแย่งธัมมชโย แต่ปัจจุบันตกลงกันในเรื่องผลประโยชน์ได้ จึงอยู่ร่วมกันอย่างหวานอมขมกลืนต่อไปได้ (สักวันเธอก็คงรู้สึก สักวันเธอนั้นคงร้องไห้)

เรื่องสีกา ก็มีอีก เช่น น้องนัส วิชญา ไตรวิเชียร (ขาว หมวย สวย เอ็กซ์), กรกมล ไทยอยู่ (ตุ๊ก) อดีตผู้ร้างลาไปแล้ว, สงบสุข ปัญญาตรง สาวเจียงใหม่ เป็นต้น รออีกสักนิดจะขยายรายละเอียดให้อ่านกันเจ๋งๆ ครับ

ณ บัดนี้ ข้าพเจ้าขอแถลงไขเรื่องบริษัท ในเครือของวัด ธมก. ดังต่อไปนี้

บริษัท สวนสนบ้านบ่อหลวง จำกัด จดทะเบียนเมือ 3 สิงหาคม 2533 เลขทะเบียนนิติบุคคลที่ บอจ.ชม.1358 ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท ธุรกิจขายที่ดินสวนเกษตร ตั้งอยู่ที่ 244 ถนนแก้วนวรัฐ ตำบลวัดเกตุ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ผู้มีอำนาจลงนาม นางจิรวัฒน์ ศรีสัตนา (สีกาอี๊ด) กรรมการคือ สุนทร ศรีสัตนา และจิรวัฒน์ ศรีสัตนา

บริษัท ไวแซค จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 3 มกราคม 2527 เลขทะเบียนนิติบุคคล 19/2527 ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ธุรกิจขายที่ดินสวนเกษตร ตั้งอยู่ที่ 44 ซอยศุภราช ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ผู้มีอำนาจลงนาม นางจิรวัฒน์ ศรีสัตนา (สีกาอี๊ด) กรรมการคือ สุนทร ศรีสัตนา และจิรวัฒน์ ศรีสัตนา

บริษัท บัวบานการเกษตร จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 26 มิถุนายน 2530 เลขทะเบียนที่ 3025/2530 ทุนจดทะเบียน
20 ล้านบาท ขายที่ดินสวนเกษตร ตั้งอยู่ที่ 44 ซอยศุภราช ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ผู้มีอำนาจลงนาม นางจิรวัฒน์ ศรีสัตนา (สีกาอี๊ด) กรรมการคือ สุนทร ศรีสัตนา และจิรวัฒน์ ศรีสัตนา

บริษัท ดูแวค จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 26 เมษายน 2527 เลขทะเบียนนิติบุคคล 1633/2527 ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ธุรกิจขายที่สวนเกษตร ตั้งอยู่ที่ 36/9 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ผู้มีอำนาจลงนาม จิรวัฒน์ ศรีสัตนา (สีกาอี๊ด) กรรมการคือ สุนทร ศรีสัตนา และจิรวัฒน์ ศรีสัตนา

บริษัท ซันกรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 13 มีนาคม 2532 เลขทะเบียนนิติบุคคล 2256/2532 ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท ธุรกิจขายที่ดินสวนเกษตร ตั้งอยู่ที่ 44 ซอยศุภราช ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ผู้มีอำนาจลงนาม จิรวัฒน์ ศรีสัตนา (สีกาอี๊ด) กรรมการคือ สุนทร ศรีสัตนา และจิรวัฒน์ ศรีสัตนา

(ต่อจากตอนเย็น)

บริษัท หมอกมุงเมือง จำกัด
จดทะเบียนเมื่อ 28 ตุลาคม 2530
เลขทะเบียนนิติบุคคลื 5527/2530
ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท
ประเภทธุรกิจ ขายที่ดินสวนเกษตร
ที่ตั้ง 44 ซอยศุภราช ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
กรรมการผู้มีอำนาจ นางจีรวัฒน์ ศรีสัตนา
ผู้มีอำนาจลงนาม จีรวัฒน์ ศรีสัตนา
กรรมการมีคนเดียว คือ จีรวัฒน์ ศรีสัตนา


บริษัท ดีเวิล์ด จำกัด D. World Co., Ltd. (D ย่อมาจาก Dhammachayo ธัมมชโย)
จดทะเบียนเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2529
เลขทะเบียนนิติบุคคล 4113/2529
ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท
ประเภทธุรกิจ ขายที่ดินสวนเกษตร
ที่ตั้ง 44 ซอยศุภราช ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
กรรมการผู้มีอำนาจ นางจีรวัฒน์ ศรีสัตนา
ผู้มีอำนาจลงนาม จีรวัฒน์ ศรีสัตนา
กรรมการมีคนเดียว คือ จีรวัฒน์ ศรีสัตนา

บริษัท ไดเทรด 1992 จำกัด
จดทะเบียนเมื่อ 12 พฤษภาคม 2535
เลขทะเบียนนิติบุคคล 7740/2535
ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
ประเภทธุรกิจ จำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์
ที่ตั้ง 444-450 ซอยศุภราช ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
กรรมการผู้มีอำนาจ นางจีรวัฒน์ ศรีสัตนา
ผู้มีอำนาจลงนาม จีรวัฒน์ ศรีสัตนา
กรรมการมีคนเดียว คือ จีรวัฒน์ ศรีสัตนา

บริษัท โซวิท จำกัด
จดทะเบียนเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2929
เลขทะเบียนนิติบุคคล 384/2529
ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
ประเภทธุรกิจ จำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ (โปรดสังเกตว่า ลูกศิษย์ธรรมกายมีหมอเยอะ)
ที่ตั้ง 448-450 ซอยศุภราช ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
กรรมการผู้มีอำนาจ นางจีรวัฒน์ ศรีสัตนา
ผู้มีอำนาจลงนาม จีรวัฒน์ ศรีสัตนา
กรรมการมี 2 คน คือ จีรวัฒน์ ศรีสัตนา, สุนทร ศรีสัตนา

บริษัท ซันดาแลนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
จดทะเบียนเมื่อ 23 มิถุนายน 2532
เลขทะเบียนนิติบุคคล 5730/2532
ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
ประเภทธุรกิจ ขายเครื่องใช้และเครื่องแต่งกายสุภาพบุรุษและสตรี (รวมทั้งเครื่องประดับ)
บริษัทนี้ นำเข้าผ้าห่ม ผ้าขาว ผ้าเหลือง กาสาวพัสตร์ มาขายให้วัดธรรมกาย
(รวมทั้งนำพญาเหล็กเพชรดำจากแอฟริกามาขายว่าเป็นธาตุ 200 ล้านปี เป็นต้น)
ที่ตั้ง 205/163 หมู่ที่ 6 แขวงประเวศ เขตพระโขนง กทม.
กรรมการผู้มีอำนาจ นางจีรวัฒน์ ศรีสัตนา ลงลายมือชื่อร่วมกับ นายมานิต รัตนสุวรรณ รวมเป็นสองคน
ผู้มีอำนาจลงนาม นางจีรวัฒน์ ศรีสัตนา ลงลายมือชื่อร่วมกับ นายมานิต รัตนสุวรรณ รวมเป็นสองคน
กรรมการมี 2 คน คือ จิรวัฒน์ ศรีสัตนา , มานิต รัตนสุวรรณ

(ข้อสังเกต โปรดพิจารณาว่า อาจารย์มานิต รัตนสุวรรณ เคยให้สัมภาษณ์รายการ 97 MHz ของอาจารย์เจิมศักดิ์ว่า
เข้าไปเมื่อ 2 ปีก่อน เพราะไปส่งคุณแม่ แต่ว่า ในทะเบียนบริษัทฉบับนี้ จดทะเบียนเมื่อ 2532 ก็ลองคิดดูซิว่า ใครพูดจริง พูดปลอม ใครโกหก)

(รอต่อพรุ่งนี้ครับ ––– Prayat)
______________________________________________


ข้อมูลที่ดินล่าสุดของ “ธัมมชโย” เจ้าลัทธิอุบาทว์

โปรดติดตามและตรวจสอบที่ดิน ของพระ ธัมมชโย
• จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
1. ติดกับศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ริมแม่น้ำ ติดกับบ้านหลังใหญ่ๆ
ซึ่งบ้านหลังใหญ่นั้น เป็นบ้านของสีกาอี๊ด – จิรวัตร ศรีสัตนา
• จังหวัดเชียงใหม่
1. บริเวณดอยสุเทพ – ปุย ไม่ทราบพิกัด (เขตป่าสงวน)
2. เขต อ.ฮอด ชื่อ ไร่จิรพนา, พนาวัตร (ใช้นาม จิร และ วัตร ของสีกาอี๊ด)
3. อ. แม่ริม หรือแม่แจ่ม ไม่ทราบพิกัด
• จังหวัดเชียงราย
1. ถ้ำปุ่มถ้ำป่ำ ไม่ทราบอำเภอและพิกัด
• จังหวัดเลย
1. ใกล้กับ “ภูเรือชาร์เล่ต์” ของ หมอชัยยุทธ กรรณสูต ซื้อเวลาใกล้เคียงกัน
• จังหวัดนครราชสีมา
1. เขาใหญ่ เส้นมิตรภาพ–ปากช่อง
• จังหวัดตราด
1. หาดทรายขาว
2. เกาะช้าง
• กทม. และปริมณฑล
1. ใกล้ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ตั้งแต่ กม. 51 เป็นต้นไป

มีรายชื่อ สีกา เพิ่มเติม เป็นคนแถวเชียงใหม่
ชื่อ สงบ ปัญญาตรง มีสามีชื่อ นายแพทย์ปะชา ปัญญาตรง

ส่วน Safe house ของ พระธัมมชโย และคุณสีกาปุ๊ หรือเพียงนิล ศิริเกษม (อาจเป็นฮาเร็มด้วย)
อยู่ซอยอินทามระ 22 หรือซอยที่ออกห้วยขวางได้ เป็นบ้านใหญ่โต กำแพงสูงมากๆ จำบ้านเลขที่ไม่ได้

ถ้าท่านทราบก่อนผมแล้ว ก็ต้องขอโทษด้วย อนึ่ง วัดธรรมกายโฆษณาว่า “รูปปั้นหลวงพ่อสด” มีน้ำหนักทองคำบริสุทธิ์ 1 ตัน ปรากฏในวารสาร “กัลยาณมิตร” หน้า 31 ฉบับธันวาคม 2541




Follow Ups:



Post a Followup

Name:
E-Mail:

Subject:

Comments:

Optional Link URL:
Link Title:
Optional Image URL:


[ Follow Ups ] [ Post Followup ] [ Sensitive Forum ] [ FAQ ]