วัดพระธรรมกาย กับการตลาดแบบ MLM
การแบ่งฝ่ายตามสายงานของวัดพระธรรมกาย ฝ่ายที่จะน่าสนใจและน่าทึ่งมากก็คือ ฝ่ายหารายได้ ฝ่ายหารายได้นี้ มีพระสมชายน้องเสี่ยสอง เป็นหัวแรงใหญ่ มีการแบ่งกันเป็นทีมโดยแบ่งออกเป็นสิบทีม ทุกทีมมีชื่อที่เกี่ยวข้องกับ สัญลักษณ์สำคัญของวิชาธรรมกาย ได้แก่ ทีมแก้วกายสิทธิ์ แก้วภูธร แก้วดอยธรรม แก้วประสานใจ ฯลฯ ในแต่ละทีมจะมีพระสงฆ์จำนวนหนึ่งเป็นแกนนำและ มีอุบาสกอุบาสิกาเจ้าหน้าที่ที่เป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการวิ่งหารายได้ ทุกทีมมีการแข่งขันกันทำเป้า ยิ่งถ้าท่านได้มีโอกาสก้าวเข้าไปในสำนักงานของแต่ละทีม ที่ตั้งอยู่ด้านหลังของอาคารสำนักงานใหญ่ ท่านจะไม่แปลกใจเลยที่จะเห็นว่าทุกทีม มี ไวท์บอร์ด เขียนเป้าของทีม ซึ่งรวมถึงยอดที่ทำได้แล้วและยอดที่ต้องทำให้ได้ ทำให้อดนึกไม่ได้ว่าช่างมีความชาญฉลาด ในการนำธุรกิจขายตรงมาประยุกต์ใช้ในการหาเงิน ดิฉันเคยรู้สึกเสมอถึงความน่ากลัวของการขยายตัว อย่างรวดเร็วของธุรกิจการขายตรงแบบ MLM เพราะยิ่งใหญ่ยิ่งโตเท่าไร ก็ยิ่งน่ากลัวในเรื่องของการควบคุมโดยเฉพาะเรื่องของจรรยาบรรณของพนักงานขาย ในที่สุดก็มีการนำหลักการนี้เข้ามาใช้ในศาสนาพุทธจนได้ ดังที่กล่าวมาแล้วนะคะ ระบบ MLM เป็นระบบที่น่ากลัวเพราะจะมีการขยายตัว อย่างรวดเร็วยากที่จะคุม จึงอาจทำให้เกิดพนักงานขายที่ขาดจรรยาบรรณ เพราะมุ่งแต่จะ"ขาย" ให้ได้เป้า เช่นกันแหละค่ะ ผู้นำบุญก็มุงแต่จะเน้นขายบุญให้ได้เป้า ให้ถูกใจท่านเจ้าสำนัก จึงเกิดการระดมกำลังขายบุญจนขาดจรรยาบรรณ จนกระทั่งถึงขั้นทำพระวินัยให้วิปริต ดังที่พวกเราประจักษ์กันอยู่ในขณะนี้ น่ากลัวจริงๆค่ะ คำถามจากคุณ: โง่งมงาย 10 มีนาคม 2542 เวลา 23:08:54:
|
ลาวคนหนึ่งชักชวนคนมาสร้างพระได้จนทะลุเป้า ผมยังงง ทำบุญต้องให้ได้ถึงทะลุเป้า คนเขียน มีความรู้ระดับอาจารย์แก่แล้วด้วย แต่ยังไม่มีสติคิดอะไรชั่วหรือดี ผมเวทนาแต่ละคนจริงๆที่ทุ่มชีวิต เพื่อพระชั่ว แต่ขอย้ำ ทุกคนที่ทำงานให้วัดมีเงินเดือน ล้วนทำไปเพราะมีผลพลอยได้เป็นเงิน |