จี้ชี้ขาดปัญหาวัดธรรมกาย

กุล่มพุทธศาสนิกชนไทยถวายหนังสือสมเด็จพระสังฆราชขอให้ช่วยกระตุ้นมหาเถระฯชี้ขาดวัดพระธรรมกาย รวมทั้งให้สอบเจ้าคณะภาค 1 ด้วยหากพบมีเจตนาไม่เอาใจใส่ ขณะที่ "หลวงพ่อปัญญา" ออกโรงช่วยจี้ให้เร่งดำเนินการอีกแรง พร้อมเตือนชาวพุทธทำบุญด้วยเงินมาก ๆ หวังขึ้นสวรรค์เป็นเรื่องงมงาย ระบุคนที่เลื่อมใสวัดพระธรรมกายเป็นคนโง่ หากไม่รู้จักใช้ปัญญาจะถูกเขาหลอกเรื่อยไป วัดพระธรรมกายจัด "เทศน์แอนด์ทอล์ค" ถล่มสื่อมวลชน เปรียบเป็นหมาป่าจ้องหาเรื่องลูกแกะ ด้าน "มูลนิธิความหวังของชาวไทย" เปิดแถลงข่าวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาอ้างมีไอ้โม่งในกระทรวงศึกษาธิการฯ ปล่อยข่าวมุ่งทำลาย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีว่า เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 24 ม.ค. ทางวัดได้จัดให้มีรายการ "เทศน์ แอนด์ทอล์ค" โดยพระสมชาย ฐานวุฑโฒ ผู้อำนวยการด้านเผยแพร่ศาสนา วัดพระธรรมกาย และนายมานิตย์ รัตนสุวรรณ โดยมีผู้สนใจร่วมฟังประมาณ 1,000 คน ทั้งนี้ ทางวัดได้มีการติดประกาศเชิญชวนให้ญาติธรรมร่วมรับฟังไปทั่ว โดยมีใจความว่า รวมใจกล้าตะวัน สู้บ่ยั่น พร้อมแจ้งว่าผู้ที่อยู่รับฟังจะมีรถบัสไปส่งให้ด้วย
ก่อนรายการจะเริ่มขึ้นพิธีกรได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมฟังว่าให้ช่วยกันชักชวนคนมาบวชอุบาสกแก้วในระบบ 1 ต่อ 10 ผู้ที่เป็นเจ้าของโรงงานก็ขอให้หยุดกิจการแล้วพาลูกน้องมา ซึ่งจะถือว่าเป็นการให้โบนัสอย่างหนึ่งกับลูกน้อง
เมื่อถึงเวลาที่กำหนดพระสมชาย ฐานวุฑโฒ ได้ขึ้นเทศน์ว่า ข่าวสารความสับสนที่เกิดขึ้นกับวัดขณะนี้เป็นเรื่องของคนข้างนอกทำกัน วัดนี้สร้างมากว่า 29 ปีแล้ว และจากการได้สัมผัสกับผู้สื่อข่าวบางคนก็มาสารภาพว่าเบื่อหน่ายต่อข่าวนี้เหมือนกัน และต่อไปข่าวนี้ก็จะวนอยู่ในประเด็นซ้ำซากไม่มีอะไรใหม่ และจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขอให้พวกเราร่วมกันต่อสู้ต่อไปแล้ววันหนึ่งชัยชนะจะเป็นของพวกเรา
ด้านนายมานิตย์ รัตนสุวรรณ กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่เข้ามาที่วัดนี้จึงถูกมองเหมือนอาชญากร อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยโฆษณาให้วัดไปทั่วประเทศ ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมานี้ทางวัดไม่ต้องเสียค่าโฆษณาเลย และตนมั่นใจว่าวัดนี้จะไปรอดแน่ ขณะนี้ทางกรมการศาสนาและมหาเถรสมาคมก็กำลังลงมาตรวจสอบ ซึ่งทางวัดก็ต้องตอบคำถามและยินดีให้ตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ ถือเป็นการพิสูจน์ทางศาลอย่างเป็นทางการ แต่พระสงฆ์บางรูปที่อยู่นอกวัดและออกมาพูดถึงวัดน่าจะไม่เหมาะสมที่จะทำตัวเป็นศาลรายวัน อยากจะท้าพระดังที่ออกมาต่อต้านวัดพระธรรมกายให้ออกรายการทีวีพร้อมกัน
นอกจากนี้นายมานิตย์ยังได้ยกเอานิทานอีสปเรื่องหมาป่ากับลูกแกะมาเปรียบเทียบสื่อมวลชน โดยระบุว่าสื่อมวลชนลงข่าวใส่ความวัดพระธรรมกายหลายประเด็น ซึ่งทางวัดก็แก้ได้ทุกประเด็น แต่สื่อมวลชนก็ยังพยายามหาเรื่องต่อไปอีก เหมือนในเรื่องหมาป่ากับลูกแกะที่เมื่อลูกไม่ผิดก็พยายามจะหาเรื่องไปถึงพ่อถึงปู่
ส่วนการสร้างเจดีย์ที่มีการระบุว่ามีราคาแพงไม่เหมาะสมกับยุคนั้น นายมานิตย์กล่าวว่า ก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่มอง เจดีย์นี้สร้างต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว สำหรับวิธีการบอกบุญแบบขายตรงซึ่งวิธีนี้จะต้องมีผู้ได้ประโยชน์ แต่ประโยชน์ก็คือได้บุญเป็นค่าคอมมิชชั่น ขณะที่เรื่องนิพพานเป็นอัตตาหรืออนัตตานั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติ หากเอาความรู้เรื่องปริยัติมาถกเถียงกันก็ถือว่าเป็นปริยัติงูเห่า พระทางภาคอีสานบางรูปไม่มีความรู้เปรียญแต่ยังสามารถชี้แจงรายละเอียดของพระพุทธศาสนาได้ถูกต้องครบถ้วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ที่ธรรมสถาน จุฬาลงกรณ์มหา วิทยาลัย มีรายการบรรยายธรรมวันอาทิตย์ เรื่อง"นิพพานเป็นอนัตตาหรืออัตตา" โดยอาจารย์ สุชาติ ก่อไพศาล วิทยากรประจำธรรมสถาน ทั้งนี้อาจารย์สุชาติกล่าวว่า ถ้าเอานิพพานเป็นอัตตาก็ไม่ต่างกับลัทธิและศาสนาอื่น ๆ ถ้านิพพานเป็นอัตตาคิดว่าไม่ต้องเกิดก็ได้ พระพุทธเจ้าบอกว่าธรรมทิฏฐิสามารถสมมุติขึ้นมาได้เป็นตัวเป็นตน แต่นำมายืนยันเป็นตัวเป็นตนไม่ได้ เพราะเมื่อแยกจากธาตุที่สมมุติขึ้นมันก็จะหายไปถือเป็นความว่างเปล่า โดยในนิกายเถรวาทจะยึดถือว่าสุดท้ายคือความว่างเปล่า นิพพานในเถรวาทตรงกับคำว่าขันธ์ ซึ่งถ้าดับขันธ์แล้วก็จะไม่มีกิเลส
"การที่พระสมชายออกมาทำแบบนี้เพื่อต้องการกระตุ้นอัตตาในตัวคนที่ชอบแสวงหาความสุข เงินทอง เพชรนิลจินดา และสิ่งของ ต่าง ๆ หากมีการสอนที่ไม่เหมือนคัมภีร์เกิดขึ้นและมีการดำเนินการต่อไปในอนาคตศาสนาจะเกิดความแตกแยก ถกเถียง ไม่สามัคคี การพูดถึงนิพพานจะถูกตีความคิดไปเป็นกลุ่มเป็นสังคม โดยยกสิทธิมนุษยชนออกไป มันเป็นเรื่องที่อันตรายมาก คำสอนของพระพุทธเจ้าจะไม่มีความเป็นเอกภาพ ดังนั้นควรจะมีองค์กรมาวางบรรทัดฐานหลักธรรมและหลักปฏิบัติเถรวาทให้ชัดเจนไปเลย"
อาจารย์สุชาติกล่าวต่อไปว่า การที่พระสมชายบอกว่าอัตตาเป็นอภิปรัชญา แสดงให้เห็นว่าผู้ที่คิดเป็นแค่นักปรัชญาคนหนึ่งเท่านั้น พระที่คิดแบบนี้มันจะเป็นแค่ "มิจฉาทิฏฐิของคนพาล" มิใช่นักหาความจริง หากมีการเจาะลึกหรือศึกษาจริงๆจะรู้ว่ามันคือสัจจะ ตนขอท้าพิสูจน์ในเรื่องนี้กับพระสมชายในทุกเวที เพราะเรามีทั้งหลักการและเหตุผลสามารถชี้แจงได้ทุกอย่าง
พระปริญญาโณ ภิกขุ วัดสันติธรรมาราม พุทธสถานบางเตย แสดงความคิดเห็นว่า พุทธศาสนาเข้าใจตรงกันหมดว่านิพพานเป็น "อนัตตา" เนื่องเพราะเป็นกฎแห่งธรรมชาติ การพูดของพระสมชายก็พูดได้แต่มันจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อพุทธศาสนา เนื่องจากพระคิดว่านิพพานเป็นอัตตาจึงเกิดการรวมศูนย์ กลายเป็นการก่อสร้างวัตถุที่ใหญ่โต ไม่ใช่ความว่างเปล่าที่พระพุทธเจ้าสอน สาเหตุที่วัดพระธรรมกายสอนให้เป็นอัตตาเพราะจริตของคนที่เกิดการยึดติด
ทางด้านพระธรรมโกศาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ จ.นนทบุรี ได้บรรยายธรรมในโอกาที่เดินทางไปร่วมงานพิธีบำเพ็ญบุญเจริญบุญอายุครบ 5 รอบ ของพระราชปริยัติโมลี เจ้าคณะจังหวัดชุมพร ที่พระอารามหลวงวัดขันเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร โดยกล่าวเตือนชาวพุทธว่า การสร้างบุญด้วยเงินจำนวนมากๆโดยหวังวˆาจะช่วยนำทางไปสู่สวรรค์นั้นถือเป็นการงมงาย อย่างเช่นกรณีของวัดพระธรรมกาย ชาวพุทธต้องใช้ปัญญาอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ ทำบุญไปแล้วจะได้ไม่ต้องเสียใจหรือร้อนใจภายหลัง
สำหรับกรณีที่ทางมหาเถรสมาคมยังไม่ยอมออกมาชี้ขาดเกี่ยวกับข้อเคลือบแคลงต่างๆของวัดพระธรรมกายนั้น หลวงพ่อปัญญากล่าวว่า เถรสมาคมต้องแอคทีฟหน่อย ต้องทำงานไว ๆ ถึงแม้กรรมการเถรสมาคมจะเป็นคนแก่ที่อาจจะเชื่องช้าสักหน่อย แต่ปัญหานี้เป็นหน้าที่ของเถรสมาคมต้องแก้ไข ต้องจัดการ คนอื่นแก้ไม่ได้ รัฐบาลทำไม่ได้เพราะไม่ใช่หน้าที่
หลวงพ่อปัญญากล่าวอีกว่า วัดพระธรรมกายมีการกระทำที่เป็นกระบวนการ มีการส่งคนออกไปหาสมาชิก ใช้วิธีการทางธุรกิจ เพราะ เจ้าอาวาสของวัดนี้เรียนมาทางมาร์เก็ตติ้ง เรื่องการตลาด ทำให้ดึงคนได้เยอะ ส่วนที่จะผิดแนวทางของพุทธศาสนาหรือไม่นั้น มองว่าบางอย่างก็ผิด
"คนที่ไปเลื่อมใสแนวทางของวัดนี้นั้น เห็นว่าถ้าเป็นคนโง่ก็จะเลื่อมใส ถ้าเป็นคนฉลาดก็จะไม่เลื่อมใส อยากจะบอกว่าการเป็นชาวพุทธอย่ามักง่าย อย่าเชื่อง่าย ต้องคิดก่อนจึงเชื่อ เห็นเหตุผลถูกต้องจึงเชื่อ ถ้าเชื่อง่ายก็ถูกหลอกเรื่อยไป"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา นายวรัญชัย โชคชนะ แกนนำกลุ่มพุทธศาสนิกชนไทย ได้เข้าถวายหนังสือต่อสมเด็จพระสังฆราช ที่วัดบวรนิเวศน์วิหาร เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดการพิจารณาของมหาเถรสมาคมกรณีของวัดพระธรรมกายโดยด่วน เพราะที่ผ่านมาเห็นว่ามหาเถรสมาคมไม่ได้ทำอะไรเลย และถ้าหากเห็นว่าการดำเนินการของพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 หย่อนยานไม่ใส่ใจสอบสวนเรื่องนี้ก็ขอให้ปลดจากตำแหน่งและทำการสอบสวนด้วย อย่างไรก็ตาม ทางแกนนำกลุ่มพุทธศาสนิกชนไทยไม่ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช โดยพระมหารัชมังคลาดิลก พระเลขาฯ ได้ออกมารับหนังสือดังกล่าวแทน
นายวรัญชัยกล่าวภายหลังถวายหนังสือว่า ถ้าหลังจากนี้ไปกรณีของวัดพระธรรมกายยังไม่มีความคืบหน้าใดๆอีก ก็คงต้องพึ่งพลังมวลชนให้ช่วยกันออกมาเรียกร้องหาความกระจ่าง เหมือนที่ชาวพุทธเคยทำมาแล้วกับกรณีของพระยันตระ
ในส่วนของความคืบหน้าเกี่ยวกับ "มูลนิธิความหวังของชาวไทย" ที่อาคารโฮปเพลซ เมื่อวันที่ 24 ม.ค. นางรูบีน่า สุวรรณพงษ์ (กรัยวิเชียร) เลขาธิการคริสต์จักรความหวังกรุงเทพฯ มูลนิธิความหวังของชาวไทย ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยนางรูบีน่าได้ปฏิเสธ ข้อกล่าวหาต่าง ๆ ที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะกรณีที่มีการระบุว่ามูลนิธิดำเนินการในลักษณะของลัทธิ สอนให้เด็กเกลียดพ่อ-แม่ มีเงินทองทรัพย์สินก็เอามาบริจาคให้มูลนิธิหมด รวมถึงปฏิเสธกรณีที่มีการระบุว่านายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ผู้อำนวยการสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา เป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิด้วย
นางรูบีน่ากล่าวว่า ขอปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด มูลนิธิเคยถูกปล่อยข่าวโจมตีในลักษณะนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว อยากให้สื่อมวลชนช่วยสืบหาตัวไอ้โม่งที่ปล่อยข่าวมุ่งทำลายมูลนิธิด้วย ซึ่งตนสงสัยว่าอาจจะเป็นคนในกระทรวงศึกษาธิการ แต่ไม่ทราบว่าใคร.