page5
แฉแหล่งผลิตใหญ่พระรุ่นดูดทรัพย์อยู่ท่าพระจันทร์

เจอแล้วแหล่งผลิตพระรุ่นดูดทรัพย์ ที่แท้มาจากแผงพระท่าพระจันทร์นี่เอง เจ้าของร้านอ้างนำเข้าหินนี้มาจากเมืองจีนหลายสิบปี ยังไม่รู้ว่าดูดทรัพย์ได้ หรือมีเทวดามาเฝ้าไว้ วัดพระธรรมกายจ้างทำทีละมาก ๆ ถ้าใครสนใจซื้อได้ขายองค์ละแค่ไม่กี่ร้อย แต่จะไม่เหมือนพระของวัด ที่นำไปฉายแสงเลเซอร์ให้มีสีเหลืองสลับลายก่อน พระพยอมสวดยับ ทำพระแบบนี้ผิดหลักเกณฑ์ เอาไปดูดเงินทองจากคนรอบข้าง ในที่สุดก็จะมาถูกวัดดูดกลับไปหมด กรรมาธิการศาสนาฯ ยันปัญหาธรรมกายทำให้ชาวพุทธฉลาดขึ้น จี้ให้สันติบาล สำนักข่าวกรองสอบด้วย

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. คณะกรรมาธิการการศาสนาและศิลปวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญนายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.ศึกษาธิการและนายจรวย หนูคง ผู้ตรวจราชการศึกษาธิการ พร้อมด้วยอธิบดีกรมการศาสนา มาชี้แจงปัญหาวัดพระธรรมกายเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง
นายเด่น โต๊ะมีนา ประธานคณะกรรมาธิการฯ แถลงผลการประชุมว่า กรมการศาสนาชี้แจงว่า สิ่งไหนเป็นข้อดีของวัด และสิ่งไหนเป็นข้อเสียก็จะให้แก้ไข โดยต้องรอผลการพิจารณาของมหาเถรสมาคม ที่สั่งการให้เจ้าคณะภาค 1 ไปรวบรวมข้อมูลมาเสนอในวันที่ 11 ธ.ค. นี้ หลัง จากทราบผลสรุปของมหาเถรสมาคม หากมีข้อมูลเพิ่มอีกกรรมาธิการ จะพิจารณาว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่หากไม่มีจะต้องยอมรับในผลสรุป ขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นรอผลการชี้ขาดก่อน
ส่วนนายอำนวย สุวรรณคีรี รองประธานกรรมาธิการ กล่าวว่าวัดพระธรรมกายถือเป็นกรณีศึกษาให้ชาวพุทธได้ฉลาดขึ้น แยกแยะได้ว่าอะไรคือสิ่งดี อะไรที่ส่อไปในทางมอมเมา จะได้ไม่เป็นเครื่องมือพวกฉกฉวย ผลประโยชน์จากศาสนา ซึ่งชาวพุทธต้องมีสติ ควรให้สันติบาล หรือสำนักข่าวกรองแห่งชาติ เข้าไปหาข้อมูลในวัดต่าง ๆ ด้วย เพื่อเสนอให้ผู้ใหญ่พิจารณา เพื่อให้ศาสนาสะอาดขึ้น
ทางด้านพระมหาต่วน สิริธัมฺโม รองอธิการบดีฝ่ายเผยแพร่ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ ราชวิทยาลัย กล่าวว่า ได้มีการพูดคุย กรณีวัดพระธรรมกายในแวดวงของ สถาบันการศึกษาของสงฆ์กันอย่างมาก แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะมีทั้งส่วนดีและส่วนไม่ดี โดยส่วนตัวเห็นว่า รูปแบบการดำเนินการไม่เหมาะสม เพราะไม่ใช่แนวทางพุทธศาสนาอย่างแท้จริง เป็นเรื่องการใช้จิตวิทยาจูงใจคนให้ศรัทธา แล้วก็สามารถทำอะไรก็ได้ โดยเฉพาะเรื่องอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ต่าง ๆ ที่เกิดในวัด
ในส่วนการสร้างพระธรรมกายเจดีย์ที่วัดพระธรรมกายต้องการให้อยู่ไปอีกพันปีข้างหน้า เป็นสิ่งที่เกินความจำเป็นและยิ่งให้ทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวองค์ละ 10,000 บาท ก็ไม่น่าทำ เพราะพุทธศาสนาจะเน้นการกระทำมาก กว่าวัตถุ วัดพระธรรมกายจะต้องยึดสายกลางมากกว่ายึดเรื่องการสร้างศรัทธาและวัตถุ เรื่องนี้มหาเถรสมาคมอยู่ระหว่างการพิจารณา จะดำเนินการอย่างไรต่อไป และอยากฝากถึงพุทธศาสนิกชนว่า หากมีศรัทธาก็ต้องใช้สติ และปัญญาในการไตร่ตรองหาเหตุผลให้ชัด ถึงหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการสร้างพระธรรมกายเจดีย์นั้นได้มีการระดมทุนจัดสร้างพระธรรมกายประจำตัวด้วย ในราคาองค์ละ 10,000 บาท และจะได้พระของขวัญ โดยมีการระบุว่าสร้างมาจากหิน 200 ปี เทวดารักษาไว้ให้ ถึงคราวมีบุญได้สร้างมหาธรรมกายเจดีย์จึงได้สิ่งนี้มา โดยมีธาตุ 3 อย่างรวมกันคือพญาเหล็กเพชรดำให้ความแข็งแกร่ง ,คำแก้วมณีดึงดูดทรัพย์ และสิทธิธาตุ ให้ความสำเร็จในสิ่งที่พึงปรารถนา
ปรากฏว่าข้อมูลที่ผู้สื่อข่าวได้รับมาคือพระของขวัญนี้มีแหล่งผลิตที่แถบแผงพระ ท่า พระจันทร์ และได้มีการส่งทีมงานเฉพาะกิจเข้าไปสำรวจและพบว่าร้านดังกล่าวไม่มีชื่อ เป็นร้านเดียวที่เเกะสลักหยกและหินมากมายหลายชนิด โดย นายท. เจ้าของร้านยืนยันและอ้างว่าร้านรับจ้างวัดพระธรรมกายทำพระสิริธรรมราช โดยวัตถุดิบเป็นหินนำเข้าจากประเทศจีน มีขายเพียงเจ้าเดียวในประเทศ
ทางร้านยังนำหินดังกล่าวมาดัดแปลงหินชนิดเป็นรูปต่าง ๆ ได้ เช่น แกะเป็นพระจีน, สมเด็จนางพญา, สร้อยลูกประคํา, รูปช้าง, ลูก แก้ว, เจ้าแม่กวนอิม ตั้งแต่ขนาดที่มีเส้นผ่าศูนย์ กลางครึ่งนิ้ว ใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามที่ลูกค้าจะสั่ง โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นข้าราชการทั่วไป โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย และลูกค้าส่วนหนึ่งก็จะมาซื้อเพื่อนำไปฝากผู้ใหญ่ ลักษณะของหินชนิดนี้ มีสีดำออกน้ำตาล ๆ จะมีลายไม้สลับเลื่อมไปหมดคล้ายแร่อยู่ในตัว จับแล้วจะรู้สึกเย็น ๆ ส่วนจะดูดทรัพย์ หรือไม่เจ้าของร้านบอกว่าขาย มาตั้งนานหลายสิบปี ไม่ทราบมาก่อนว่ามีธาตุ ดูดทรัพย์
ขณะเดียวกันภรรยาเจ้าของร้านอธิบายว่าวัดพระธรรมกายจะโทรศัพท์ล่วงหน้ามาสั่งจอง สำหรับลูกค้าทั่วไปร้านขายเพียงองค์ละ 150-250 บาท และกล่าวว่าวัดพระธรรมกายนำเอาพระทั้งหมดไปฉายแสงเลเซอร์ ตรงเส้นลายไม้ ทำให้ตรงเส้นลายไม้ที่โดนแสงเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองละเลื่อมซึ่งวัดอ้างว่าเป็นธาตุคำแก้วมณี ฉะนั้น ที่วัดพระธรรมกายขายไม่แพงหรอก
"เราไม่ต้องติดป้ายชื่อเพราะแต่ละวันก็มีคนมาซื้อกันเยอะ ที่ร้านขายมาตั้ง 22 ปีแล้ว มีคนรู้จักมากมายแต่ก่อนจะย้ายมาที่ท่าพระจันทร์เคยขายอยู่ที่วัดมหาธาตุ แต่โดนไล่ที่"
ร้านค้าแห่งนี้ยังติดป้าย โปสเตอร์ รูปพระต่าง ๆ ของวัดพระธรรมกายแสดงให้เห็นเด่นชัดด้วย
ส่วนพระพิศาลธรรมพาที หรือ พระ พยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวถึงพระมหาสิริราชธาตุหรือพระรุ่นดูดทรัพย์ว่า เป็นพระที่ผิดหลักเกณฑ์ มีอย่างที่ไหนไปสร้างพระมีอิทธิฤทธิ์ดูดเงินทองจากคนรอบข้างได้ เท่ากับว่าเอาพระไปดูดเงินชาวบ้าน อย่างนี้คนที่ถูกดูดจะ คิดอย่างไร มิถูกดูดกันจนกลายเป็นคนจนกันทั้งประเทศหรือ เพราะคนมีพระไปดูดทรัพย์สิน เงินทองคนอื่นมา ในที่สุดจะมาถูกวัดดูดกลับเข้าวัดหมด
ส่วนพระที่ว่าหินมีอายุ 200 ปีนั้น ความจริงมีอยู่ว่าหินที่เก็บขึ้นมาจากพื้นดิน จะบอกว่ามีอายุกี่พันกี่หมื่นปีก็ได้ เพราะไม่มีใครรู้เลยว่าโลกมีอายุมากี่ปี ถ้าจะให้ดีก็น่าจะบอกว่าหินที่มาทำพระรุ่นดูดทรัพย์มีอายุเก่าแก่เท่ากับอายุโลก ก็น่าที่จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพิสูจน์ว่ามีอายุเท่าไรกันแน่.