page4
ธรรมกายเดินหน้าก่อมหาเจดีย์
รองเจ้าอาวาสจวกคนต้าน

ร้อง"อาคม" คำสอนธรรมกายเพี้ยน ขัดกับหลักไตรลักษณ์ ที่สอนทุกอย่างไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน แต่ของธรรมกายบอก ถ้าถึงธรรมที่แท้จะเที่ยง เป็นสุข มีตัวตน นักวิชาการศาสนาออกโรงยัน คำสอนธรรมกายไม่ถูกจุด ผิดหลักศาสนา ขณะที่รองเจ้าอาวาสวัดธรรมกาย ประกาศให้สานุศิษย์เดินหน้าสร้างเจดีย์ อย่าสนคนค้าน ตัวเองไม่ทำยังไปสร้างบาป นรกชัดๆ ส่วนเจ้าคณะตำบลบ่อหลวง เชียงใหม่ ขอให้กรมป่าไม้ตรวจสอบวัดสาขาธรรมกาย ที่อาจรุกป่า พร้อมทั้งชาวบ้านไม่ต้อนรับ เพราะเรี่ยไรเงินเหมือนบังคับมากเกิน

รายงานข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการเปิดเผยว่า ได้มีการส่งข้อมูลร้องเรียนนายอาคม เอ่งฉ้วน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทางระบบอินเตอร์เน็ต กรณีคำสอนของวัดพระธรรมกาย บิดเบือนพระธรรมคำสั่งสอน เพราะสอนว่า ภาวะนิพพานเป็นอัตตา คือมีตัวตน และสามารถเข้าไปถวายข้าวได้ รวมถึงธรรมกายเป็นสิ่งที่นิจจัง สุขขัง อัตตา คือเที่ยง เป็นสุข และมีตัวตน ซึ่งขัดกับหลักไตรลักษณ์ที่ระบุว่า ทุกอย่างเป็นอนิจจัง ทุขขัง อนัตตาคือไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตัวตน ไม่มีตัวกู ของกู
สำหรับข้อมูลที่ส่งให้นายอาคม ได้มีการยกหลักฐานทางพระไตรปิฎก มาคัดค้านแนวทางดังกล่าว รวมถึงนำหนังสือ "นิพพาน อนัตตา" ของพระธรรมปิฎก ( ป.อ. ปยุตฺโต ) หรือหลวงพ่อประยุทธ ปยุตฺโต ปราชญ์ทางศาสนา มาเป็นเหตุผลด้วยว่า พระพุทธศาสนาไม่ยอมรับ การถืออัตตา ไม่ว่าอย่างใดๆ โดยลัทธิศาสนาทั่วไป ล้วนสอนให้ยึดถืออัตตาในลักษณะต่างๆ ตั้งแต่หยาบไปจนละเอียด แต่พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาเดียว ที่สอนหลักอนัตตา พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ละการยึดถืออัตตา
คำสอนของวัดพระธรรมกาย จึงไม่สอดคล้องกับพุทธศาสนาหินยาน ในประเทศไทย แต่ไปสอดคล้องกับนิกายมหายาน ซึ่งเผยแพร่ในจีน ญี่ปุ่น ฯลฯมากกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทั้งนี้ ที่ผ่านมาหนังสือเผยแพร่ของวัดพระธรรมกาย อาทิหนังสือพุทธคุณ ธรรมคุณ-สังฆคุณ ในหน้า 36 และ 66 ต่างยืนยันว่า ธรรมกายคือสิ่งที่เป็นนิจจัง สุขขัง อัตตา
ในวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 14.00-18.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการสัมมนา "ธรรมกายวิภาษ" ที่ธรรมสถาน จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย โดยนายสุชาติ กอไพศาล อาจารย์ธรรมสถาน โดยเนื้อหาสัมมนาระบุว่า การก่อสร้างธรรมกายเจดีย์ถูกต้อง ตามหลักพระศาสนา เพราะถือว่าเป็นการสร้างเจดีย์เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า และการทำบุญไม่สามารถบังคับได้ ทุกคนหยิบเงินกระเป๋าด้วยความสมัครใจ เจดีย์ดังกล่าวจะอยู่ต่อไป แต่ควรจะเป็นของทุกคน ไม่ใช่ของวัด เหมือนกับพุทธมณฑลที่เป็นของทุกคน
อย่างไรก็ตาม ในการสัมมนานายสุชาติ ได้มีการวิจารณ์ถึงหลักคำสอนของวัดพระธรรมกายที่ว่า นิพพานเป็นภาวะที่มีตัวตน หรือเป็นอัตตา ซึ่งขัดกับหลักศาสนาพุทธที่ว่า นิพพานไม่มีตัวตน เป็นอนัตตา ไม่มีรูปรส กลิ่น เสียง ไม่มีสถานที่ หลักคำสอนคล้าย ๆ กับลักษณะทางมหายาน จีน ญี่ปุ่น และวัดสอนให้เห็นว่า นิพพานเป็นสถานที่ มีดินแดนที่อยู่ ซึ่งผิด โดยคำสอนของหลวงพ่อสด จันทฺสาโร ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายไม่ใช่สิ่งผิด แต่เมื่อมีการแตกคำสอนของหลวงพ่อสดออกมาจึงเพี้ยน โดยเฉพาะมีการถกเถียงตอบโต้กันระหว่างศิษย์ของหลวงพ่อสดในแต่ละสำนัก
ระหว่างการสัมมนา ยังมีการวิจารณ์ถึง ท่าทีพระระดับสูงบางองค์ของวัดธรรมกายด้วยว่า ไม่น่ามีอารมณ์โกรธ โดยถ้าฝึกสมาธิหรือถึงธรรมจริง ก็ไม่น่าจะโกรธออกมาให้เห็น และมีคนร่วมสัมมนาบอกว่า เคยซื้อที่ดินให้วัด ระยะแรกก็ดี แต่ต่อมามีลาภ ยศมาเสริมแต่ง จึงผิดขั้นตอน
อย่างไรก็ตาม แต่มีญาติธรรมของวัดพระธรรมกายลุกขึ้นมาอภิปรายว่า ที่วัดสร้างธรรมกายเจดีย์ เพื่อให้ลูกหลานไทยในอนาคต มีสิ่งที่ยิ่งใหญ่สุดในโลกคู่บ้านเมือง เทียบเท่ากับศาสนาอื่น และยังถกเถียงคำสอนเรื่องนิพพาน โดยยืนยันว่า เป็นคำสอนที่ถูกต้องด้วย
ส่วนที่วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี วันเดียวกัน มีการเรียกชุมนุมญาติธรรม และสัมมนากันถึงเรื่องความคืบหน้า ในการสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ด้วย โดยมีนายอนันต์ อัศวโภคิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮาส์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานการก่อสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ เป็นประธาน โดยมีจำนวนผู้ชุมนุมประมาณ 1 หมื่นคน ซึ่งน้อยกว่าปกติ
พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตตฺชีโว) หรือหลวงพ่อทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้ขึ้นเทศน์สั่งสอนญาติธรรม ในศาลาสภาธรรมกายสากล โดยเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00 น. และเสร็จสิ้นเมื่อตอนใกล้เที่ยง ภายหลังการเทศน์จบลง บรรดาญาติธรรมส่วนใหญ่ ต่างก็พากันลุกออกจากศาลา เพื่อจะไปรับประทานอาหาร แต่ถูกหลวงพ่อทัตตชีโวเรียกให้นั่งลงอีก โดยกล่าวว่า อย่าเพิ่งลุกหลวงพ่อขอเวลาสักครู่ และกล่าวว่า วัดเป็นโรงเรียนสอนศีลธรรม ตั้งแต่เริ่มต้นสร้างวัดพระธรรมกายมา จึงได้ตั้งใจสร้างวัดให้ถูกลักษณะตามพระพุทธศาสนาได้กำหนดเอาไว้ คือทั้งบริเวณวัดพยายามปลูกป่า ปลูกต้นไม้ ปลูกสวนให้เป็นเหมือนอุทยานเพื่อเหมาะกับการนั่งสมาธิ
อาคารทุกหลังสร้างขึ้นมาเพื่อสอนศีลธรรมโดยเฉพาะ ตั้งแต่อาคารเล็กที่จุได้ 400 กว่าคน เมื่อประชาชนเพิ่มขึ้น ก็สร้างขยายบรรจุคนได้ 42,000 คน เพื่อการเทศน์และการนั่งสมาธิตามหลักการในพุทธศาสนา เมื่อมีผู้ศรัทธามากขึ้น จึงสร้างสภาธรรมกายหลังใหม่ ในชั้นล่างจุคนได้ประมาณ 100,000 คน ส่วนชั้นบนจุได้ประมาณ 120,000 คน ก็ไว้เพื่อนั่งสมาธิและการศึกษาธรรมะ หากมองไปในอนาคตพื้นที่คงไม่พอ จึงต้องสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ ซึ่งได้สร้างถูกตามหลักการพระพุทธศาสนา
มหาธรรมกายเจดีย์นี้ ภายในจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุของพระอรหันต์ต่างๆ และจะบรรจุพระไตรปิฏก ทั้งที่เป็นตัวอักษรไทย-ตัวอักษรของชนชาติต่าง ๆ ที่นับถือ ดังนั้น จึงเป็นธรรมเจดีย์ในตัวด้วยเสร็จ รวมถึงบรรจุเครื่องใช้ของพระภิกษุในยุคปัจจุบันไว้ ให้คนภายภาคหน้าใน 1,000 ปีได้เห็น มหาธรรมกายเจดีห์จึงตรงตามหลักการสร้างเจดีย์ ใครจะมากล่าวหาว่า ผิดเพี้ยนก็อย่าหลง ส่วนรูปร่างจะทรงเตี้ยหรือสูง ก็เพื่อให้เหมาะกับใช้งานต่อไปในอนาคต
"อีกเรื่องที่อยากจะพูดมากในวันนี้คือ ให้ไปเตือนพวกเราด้วยว่า อย่าเอาใจคนธรรมดากับนักสร้างบารมีมาวัดกัน มันคนละชั้นคนละระดับ ขณะนี้มีเรื่องแปลกในสังคมไทย พอเห็นคนอื่นที่ตั้งใจทำทานตั้งใจสร้างบารมี ตัวเองซึ่งไม่สร้างบุญบารมีแล้วยังออกมาขวางอีก กล่าวหาว่าเขาทำบุญมากไป ตัวเองไม่ทำยังไปสร้างบาปขวาง ไม่ให้คนอื่นสร้างบุญด้วย นรกชัดๆ พวกเราทั้งหลายอย่าได้ถลำตาม เราต้องเดินตามทางพระพุทธเจ้า ไปเถอะ เดินไปอย่างนักสร้างบารมี อย่าเดินไปตามคนพาลนะลูกนะ ไอ้เจ้าพวกนี้ แม้บางที่จะสร้างเพื่อตัวเอง มันยังไม่สร้าง มันยังขวางทาง ไม่ให้คนสร้างบุญสร้างบารมี ลูกเอยขอร้องอย่าไปฟังมัน"
ในวันเดียวกันผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ รายงานจากจ.เชียงใหม่ว่า ที่ธุดงค์สถานล้านนา ซึ่งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมของ วัดพระธรรมกายประจำจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 8.30 น. มีการจัดงานเรียกว่า งานทำบุญบูชาข้าวพระขึ้น โดยมีญาติธรรมไปร่วมในพิธีประมาณ 100 คนเศษ มีการตั้งโต๊ะเรี่ยไรญาติโยมให้ทำบุญในรูปแบบ ของกองทุนหลายกองทุนอาทิ กองทุนเศรษฐีถาวร กองทุนภัตราหารโดยให้บริจาคครั้งละ 100 บาท ติดต่อกันจำนวน 10 ครั้งถึงจะได้บุญ พร้อมรับบริจาคสร้างพระธรรมกายประจำตัวด้วย ในราคาองค์ละ 10,000 บาท
ช่วงบ่ายที่วัดธรรมกาย มีการอภิปรายเกี่ยวกับการที่สื่อมวลชนวิพากษ์วิจารณ์วัดพระธรรมกาย โดยคณะศิษย์ของวัดนำโดยอนันต์ และผู้มีชื่อเสียงหลายคน โดยมีการขอคุณสื่อมวลชนที่ลงข่าว ก่อนหน้านี้ เคยขอให้ช่วยลงข่าวพุทธศาสนาก็ไม่ยอมลง และยืนยันการสร้างเจดีย์ถูกต้อง รวมถึงการก่อสร้างที่ถูกหลักวิศวกรรม วัดพระธรรมกายคำสอนถูกต้อง และวันหนึ่งเมื่อธรรมกายเจดีย์เสร็จ มีคนมาประชุมกัน 1 ล้านคน สื่อมวลชนจะด่าว่าทำไมสร้างเล็กเกินไป ขณะนี้มีชาวไต้หวันจองมา 8 หมื่นคนจะเดินทางมาวัด ขณะที่การสร้างธรรมกายเจดีย์จะช่วยเศรษฐกิจ เมื่อมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามา การสร้างศาสนาวัตถุเป็นการแก้ปัญหาสังคมต้นเหตุ ทำให้คนดีขึ้น และได้ผลกว่าการสร้างโรงเรียน หรือโรงพยาบาล และนายอนันต์กล่าวปิดท้ายว่า ให้ชาวธรรมกายเลิกตอบโต้กับสื่อ และมีอะไรให้สอบถามที่วัด หรือมานั่งฟังธรรมที่วัด
พระครูอนุรักษ์สีละคุณ เจ้าคณะตำบลบ่อหลวง อ.ฮอด จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงพฤติกรรมของพระสงฆ์ของวัดพระธรรมกาย ที่เข้าไปตั้งศูนย์ค้นคว้าศึกษาธรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสม แต่เข้าไปตรวจสอบเพราะไม่มีอำนาจ เพราะพระสงฆ์ที่ดูแลศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ ถูกส่งโดยตรงมาจากวัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี ไม่เคยขึ้นบัญชีไว้ที่วัดใดในเขตตำบลบ่อหลวง
ศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ อยู่ภายในบริเวณของบริษัทพนาวัฒน์ ซึ่งระบุว่า มีการปลูกกุหลาบส่งออก ทำให้ไม่สามารถที่จะเข้าไปตรวจสอบภายในได้ ชาวบ้านเวลานี้ ส่วนใหญ่ก็ไม่พอใจกับพฤติกรรมนี้ ไม่เคยออกมาบิณฑบาตร ไม่เคยร่วมปฏิบัติกิจสงฆ์ และที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมตรงข้ามวัดกิ่วลม ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ก็เช่นกัน วัดพระธรรมกายมากว้านซื้อที่ดินของชาวบ้าน และตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมขึ้นมา โดยมีรั้วรอบขอบชิด ก็ถูกชาวบ้านร้องเรียนเช่นกัน
"อาตมาเคยสอบถามไป เขาก็บอกว่า เป็นที่ปฏิบัติธรรมของญาติโยมทั้งหลาย โดยจะมีพระพี่เลี้ยงเข้าไปดูแล ส่วนที่พักที่ปลูกไว้อย่างสวยงามนั้น ส่วนหนึ่งก็ให้เจ้าหน้าที่ของวัดพระธรรมกายที่มาดูแลนี้ได้พักอาศัย ส่วนหนึ่งก็ให้ผู้ที่มาปฏิบัติธรรมได้พักอาศัย เพียงแต่ว่า ที่นี่นั้นมีรั้วรอบขอบชิดจนเกินงามไป ไม่สามารถที่จะมองเห็นได้ และที่สำคัญก็คือ ห้ามบุคคลภายนอกเข้า-ออกอีกต่างหาก ทำให้ชาวบ้านรู้สึกแปลกๆ"
ส่วนวิธีเผยแผ่ธรรมะของพระวัดพระธรรมกาย ไม่ได้แตกต่างไปจากพระสงฆ์จากวัดต่าง ๆ สั่งสอนกัน เพียงแต่ของวัดพระธรรมกาย จะมีระเบียบที่เข้มงวดกว่า และดูเร้นลับ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการเรี่ยไรบอกบุญมากจนเกินไป เคยมีชาวบ้านมาร้องเรียน เรื่องของการบอกบุญนี้หลายครั้ง ซึ่งก็ได้ตักเตือนไป คงทำอะไรไม่ได้มาก เพราะเกินอำนาจและขอบเขต มีครั้งหนึ่งเท่านั้นที่เจ้าคณะภาค 7 ได้สั่งการให้ตรวจสอบ และดำเนินการกับพระสงฆ์ของวัดพระธรรมกาย เนื่องจากเรี่ยไรเงินชาวบ้าน จนกลายเป็นเรื่องผลประโยชน์
"ก็เรื่องกฐินผ้าป่านั่นแหละ มีครั้งหนึ่ง ที่พระจากวัดพระธรรมกายเข้ามาดำเนินการเองทุกอย่าง แล้วก็มีการจัดให้ฆราวาสเป็นผู้รับช่วงดำเนินการต่อ ชาวบ้านร้องเรียน เพราะต้องเรียกว่าบังคับมากกว่า ที่สำคัญก็คือกรรมการวัดที่เป็นฆราวาส ไม่มีใครได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย ถูกตัดตอนออกมาหมด เงินทำบุญได้เท่าไหร่ก็ไม่เคยมีการแจ้งให้ทราบแต่น้อย"
สำหรับพื้นที่ซึ่งมีปัญหาว่า มีการรุกล้ำบุกรุปป่าสงวนแห่งชาติขุนแม่รายนั้น เจ้าคณะตำบลบ่อหลวงกล่าวว่า ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมกรมป่าไม้ถึงอนุญาตให้วัดพระธรรมกายเข้ามาใช้พื้นที่บริเวณนี้ได้ ทั้งที่เมื่อตอนขอเช่าใหม่ ๆ นั้น อ้างว่าเช่ามาเพื่อดำเนินการเรื่องผลประโยชน์ แต่เมื่อได้ไปกลับมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ขึ้นมา เพราะดูแล้วคิดว่า น่าจะเข้าข่ายผิดกฎหมาย
ต่อข้อถามเรื่องของ การตั้งสำนักสนแก้ววนารามนั้น ก็ไม่เคยขึ้นทะเบียนบัญชีพระไว้ที่ในวัดบริเวณนั้น เท่าที่ทราบนั้นเข้าใจว่า เป็นการดำเนินการจัดตั้ง ที่ไม่น่าจะถูกระเบียบของกรมการศาสนาเท่าใดนัก เพราะมีการสร้างอาศรม-สร้างที่พักกันเอง เคยสอบถามหลายครั้ง แต่ก็ถูกอ้างให้ไปคุยกับพระราชภาวนาวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ก็เลยไม่รู้จะทำอย่างไรดี ขณะนี้ชาวบ้านก็เคลื่อนไหวเรื่องนี้กันอย่างมาก โดยมีทั้งผู้สนับสนุนและผู้คัดค้านวัดพระธรรมกายมีจำนวนมากพอ ๆ กัน เรื่องนี้อาจจะให้กรมการศาสนาเข้ามาตรวจสอบดูบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้พระสงฆ์จากวัดพระธรรมกายนั้น ถูกส่งมาประจำวัดต่าง ๆ ในตำบลบ่อหลวง อ.ฮอด จังหวัด เชียงใหม่ กันอย่างต่อเนื่อง โดยระยะแรกนั้น ส่งมาจำพรรษาอยู่ที่วัดแม่สะนามเก่า วัดแม่สะนามใหม่ วัดวังกอง วัดบ้านนาน้อย วัดกิ่วลม วัดใหม่บ่อพะแวน วัดทุ่งสน วัดบ้านขุน วัดกองลอย เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่เวลานี้ แทบไม่มีพระจากวัดพระธรรมกายประจำอยู่ เนื่องจากถูกประชาชนขับไล่ไปแล้ว เพราะเหตุเบียดเบียบทรัพย์ของชาวบ้าน ยังคงเหลือเพียงจำพรรษาวัดอยู่ไม่เกิน 5 องค์ในหลายๆพื้นที่ของอ.ฮอด ที่สำคัญก็คือ วัดใดที่มีพระสงฆ์จากวัดพระธรรมกายจำพรรษาอยู่วัดนั้น ค่อนข้างจะมีฐานะดี มีสถาปัตยกรรมใหม่ ๆ ให้เห็นด้วย