ตูมตามห้ามธรรมกายแคมเปญล่อบุญ


[ Follow Ups ] [ Post Followup ] [ Sensitive Forum ] [ FAQ ]

Posted by ต้นธาตุ on November 27, 1998 at 22:36:56:

เดลินิวส์ 28/11/2541

ตูมตามห้ามธรรมกายแคมเปญล่อบุญ

"อาคม"ยกพลตรวจ"วัดธรรมกาย"แล้วสั่งห้ามจัดแคมเปญล่อใจคนมาบริจาคโดยใช้บุญเป็นจุดดึงดูด
พร้อมห้ามอวดอ้างอิทธิปาฏิหาริย์ แต่เรื่องถูก-ผิดโยนกลองไปให้ "มหาเถรสมาคม" ชี้ขาด เผย
"ทัตตชีโว" รองเจ้าอาวาสฉุนจนลืมสำรวม
เหตุเพราะเจอซักหนักเรื่องยิงเลเซอร์สร้างปาฏิหาริย์-บังคับคนทำบุญ ด้าน "หลวงพ่อคูณ"
เตือนสติอย่าหลงงมงายว่าบูชาวัตถุมงคลแล้วจะมีลาภลอย

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 27 พ.ย. นายอาคม เอ่งฉ้วน รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งกำกับดูแลกรมการศาสนา
พร้อมด้วยนายนิคม มูสิกะคามะ อธิบดีกรมศิลปากร นายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมศาสนา และ
นายอาทร จันทรวิมล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมชาติแห่งชาติ (สวช.) ได้นำสื่อมวลชนจำนวนหนึ่ง
เดินทางไปยังวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี
เพื่อตรวจเยี่ยมและตรวจสอบกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่า วัดพระธรรมกายเผยแพร่ธรรมะไม่ถูกต้องตามแนว
ทางคำสอนของพระพุทธเจ้า และมีการดำเนินโครงการต่าง ๆ หลายโครงการ โดยเฉพาะการก่อสร้าง "ธรรมกายเจดีย์"
มูลค่านับหมื่นล้านบาท กระทั่งกลายเป็นการดำเนินพุทธพาณิชย์จนเกินเหตุ

การเดินทางมาตรวจเยี่ยมวัดพระธรรมกายของนายอาคมครั้งนี้ พระภาวนาวิริยคุณหรือหลวงพ่อทัตตชีโว
รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้มาให้การต้อนรับและพาชมภายในบริเวณวัด ส่วนพระราชภาวนาวิสุทธิ์
หรือหลวงพ่อธัมมชโย เจ้าอาวาสฯไม่ได้ลงมาร่วมการต้อนรับด้วย โดยทางวัดแจ้งกับสื่อมวลชนว่าเจ้าอาวาสฯ
ไม่อยู่ไปต่างจังหวัด

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าหลังนายอาคมเดินทางไปถึงไม่นานได้มีเจ้าหน้าที่ของทางวัดมาเชิญให้
นายอาคมและนายพิภพ อธิบดีกรมศาสนา เข้าไปพบกับหลวงพ่อธัมมชโย เจ้า อาวาสฯในกุฏิโดยลำพัง โดยไม่ยอม
ให้สื่อมวลชนเข้าไปด้วย

ภายหลังเข้าพบหลวงพ่อธัมมชโย นายอาคมได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว
แต่ระหว่างนั้นได้มีศานุศิษย์ของวัดธรรมกายผู้หนึ่งเป็นชายได้พยายามขัดจังหวะ โดยแทรกกลุ่มผู้สื่อข่าวเข้ามา
ถามนายอาคมว่า ขอถามรัฐมนตรีว่าคนที่ทำให้เกิดความแตกแยกทำไมไม่ไปโจมตี แถวบ้านตนมีศาสนาใหม่ ๆ
แปลกเข้ามาเผยแพร่มากมายทำไมไม่สนใจ แต่วัดธรรมกายเผยแพร่สิ่งดีทำไมถึงโจมตีกัน

ซึ่งนายอาคมตอบว่า ต้องเข้าใจว่าความจริงก็คือความจริง ระบบประชาธิปไตยคงปิด ปากใครไม่ได้
เราต้องพูดกันตามข้อเท็จจริง เวลานี้จะมาปิดบังอะไรไม่ได้แล้ว เพราะสื่อมวลชนเองก็เป็นองค์กรหนึ่งในการตรวจสอบ
เราก็เห็นว่าความไม่ชอบมาพากลสื่อมวลชนเป็นคนจุดประเด็นขึ้นมา ในประเด็นที่คนมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน
ก็ต้องออกมาพูด เราต้องยึดความเห็นข้างมากจะดีกว่า และตนก็ไม่เห็นว่าสื่อมวลชนเหล่านี้จะทำให้ศาสนาแตก
แยกแต่อย่างใด

นายอาคมกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า วัดธรรมกายเป็นวัดที่จดทะเบียนมา 30 ปีแล้ว มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้น
ซึ่งเป็นเรื่องอธิบายลำบาก อย่างเรื่องมองดวงอาทิตย์ได้ก็เป็นเรื่องพิสูจน์ลำบาก สำหรับกรณีที่ทางวัดมีการสร้าง
สิ่งก่อสร้างใหญ่โตอย่าง "ธรรมกายเจดีย์" นั้น
ทางวัดก็บอกว่าดำเนินการสร้างมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมาสร้างในยุคไอเอ็มเอฟ ทั้งนี้
กรณีที่ว่าวัดธรรมกายจะผิดจะถูกอย่างไรในรูปแบบการเผยแผ่เวลานี้คงยังตัดสินไม่ได้
เรื่องนี้ทางมหาเถรสมาคมเท่านั้นที่จะต้องเข้ามาตรวจสอบและเป็นผู้ตัดสิน
ถ้าไม่มีใครเสนอตนยินดีจะเป็นผู้เสนอให้มหาเถรสมาคมพิจารณาเอง

อย่างไรก็ตาม
ในส่วนของการดำเนินการโฆษณาเชิญชวนให้คนมาเช่าพระที่เรียกว่าแคมเปญและมีการติดตั้งคัตเอาต์นั้นตน
ได้ขอให้หยุด แล้วเปลี่ยนมาเป็นเชิญชวนให้คนมาปฏิบัติธรรมแทน ซึ่งทางวัดก็เห็นด้วย ส่วนประเด็นเกิด
ปาฏิหาริย์มองดวงอาทิตย์ได้นั้น

หลวงพ่อธัมมชโย เจ้าอาวาสฯ ระบุว่าต้องมาปฏิบัติธรรมจริง ๆ ถึงจะเห็น แต่ตนก็ได้บอกหลวงพ่อธัมมชโยไปว่า
ถึงเห็นก็ไม่ควรออกมาแสดงว่าเห็น เพราะจะกลายเป็นเรื่องอภินิหาร

ด้านหลวงพ่อทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า
ทางมหาเถรสมาคมเคยมีมติว่าถ้าเศรษฐกิจไม่ดีควรงดการก่อสร้าง ซึ่งหลวงพ่อทัตตชีโวตอบอย่างมีอารมณ์ว่า
ฟังให้ชัดนะ มหาเถรสมาคมไม่ได้ห้ามสร้างวัดตอนเศรษฐกิจไม่ดี แต่บอกว่าให้ประหยัด สร้างอยู่แล้วก็ต้องสร้าง
ต่อไปให้เสร็จ ของเก่ามันค้างอยู่แล้วก็ต้องทำให้เสร็จมิฉะนั้นมันเสียหาย

ต่อข้อถามที่ว่าขณะนี้กระแสสังคมกำลังมองภาพลักษณ์ของวัดธรรมกายไปในทางที่ไม่ดี หลวงพ่อทัตตชีโวตอบว่า
กระแสสังคมจะมองอย่างไรไม่เป็นไร แต่ต้องบอกว่าความจริงเป็นอย่างไร
เมื่อมีการมองผิดพลาดก็เป็นเรื่องของสื่อมวลชนที่จะต้องเอาความจริงไปบอกญาติโยม ซึ่งญาติโยมจะเข้าใจเอง
คนไทยไม่โง่ ส่วนกรณีเกิดปาฏิหาริย์ เกี่ยวกับดวงอาทิตย์นั้น หลวงพ่อทัตตชีโวยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องหลอกลวง
เพราะตนก็เห็น โดยเห็นดวงอาทิตย์ใสเหมือนแก้วมองทะลุได้ ซูมเข้าซูมออก เปลี่ยนสี และหมุนได้ ส่วนใหญ่จะเห็น
ลักษณะนี้ แต่มีบางส่วนเห็นหลวงพ่อสดนั่งอยู่กลางอากาศและดวงอาทิตย์อยู่ในท้อง บางคนก็เห็นดวงอาทิตย์ขยาย
แล้วหลวงพ่อสดอยู่ในดวงอาทิตย์

ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมคนทั่วประเทศไม่เห็น เพราะเขามีบาปหรือเปล่า หลวงพ่อทัตตชีโวตอบว่าเพราะไม่ได้มาดู
มากกว่า เมื่อถามว่ามีบางเสียงบอกว่าทางวัดยิงเลเซอร์ หลวงพ่อทัตชีโวมีท่าทีฉุนเฉียวเล็กน้อยแต่พยายามข่ม
อารมณ์และตอบว่า จะเอาเลเซอร์มาจากไหน ถ้ามีเลเซอร์อย่างที่ว่าช่วยหามาให้ด้วย อยากได้ ผู้สื่อข่าวจึงถามอีกว่า
จะทำอย่างนั้นอีกครั้งได้หรือไม่

หลวงพ่อทัตตชีโวยิ่งฉุนเฉียวยิ่งขึ้น โดยกล่าวเสียงดังว่า "พูดอย่างนี้หมายความว่าอาตมาทำใช้มั้ย"
ต่อข้อถามที่ว่าวัดธรรมกายปฏิบัติถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนาหรือไม่ หลวงพ่อทัตตชีโวตอบว่า
แน่นอนวัดนี้ปฏิบัติถูกต้องทุกอย่าง ไปดูได้เลยว่ามีวัดไหนในประเทศไทยบ้างที่มีคนมาทำทาน สมาธิ รักษาศีล
กันเป็นแสน ๆ คนเหมือนวัดธรรมกาย ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จริงหรือไม่ที่มีผู้ระบุว่าวัดธรรมกายบังคับให้คนทำบุญ
ใครทำเท่าไหร่ได้บุญเท่านั้น ต้องทำมากถึงจะได้บุญมาก

ถึงตรงนี้หลวงพ่อทัตตชีโวถึงกับควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ชี้หน้าผู้สื่อข่าวที่ถามพร้อมกับกล่าวด้วยเสียงดังว่า
"คุณฟังให้ดีนะ ใครทำบุญเท่าไหร่ก็ได้ ไม่ใช่เฉพาะวัดธรรมกายทุกวัดในประเทศไทยถ้าทำแล้วจะได้รับของที่ระลึก
ทุกวัดเขามีกำหนดคุณไปถามทุกวัดได้เลย แต่วัดนี้มีสิ่งที่ให้สังเกตอยู่ก็คือ เขามาสร้างพระพุทธรูปที่วัดแล้วไม่ได้เอา
กลับบ้านแม้แต่องค์เดียว แต่จะให้ประดิษฐานไว้บนเจดีย์เอาไว้ให้มนุษย์ทั่วโลกกราบ คุณจะมากล่าวหาอาตมาว่า
ขายพระพุทธรูปคงไม่ใช่"

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า มีข่าวว่าญาติโยมบางคนทำบุญจนหมดเนื้อหมดตัว หลวงพ่อทัตตชีโวกล่าวด้วยน้ำเสียง
ไม่ค่อยพอใจว่า เรื่องนี้ต้องฟังหูไว้หู มีใครเคยเจอคนที่ว่านี้ไหม ผู้สื่อข่าวตอบว่า เคยเจอ หลวงพ่อทัตตชีโวก็กล่าวว่า
ว่างๆ เอาตัวมา

เมื่อถามถึงกรณีมีการประชาสัมพันธ์วัดตามสื่อต่าง ๆ และมีการติดป้ายโฆษณาตามจุด ต่าง ๆ
หลวงพ่อทัตตชีโวปฏิเสธว่าทางวัดไม่ได้เป็นผู้ทำ แต่มีลูกศิษย์ทำให้ โดยบอกว่าตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีมีการยกป้าย
โฆษณาต่าง ๆ ลงมาก มองดูแล้วไม่สวยงาม จึงทำป้ายโฆษณาวัดขึ้นไปติดแทน ซึ่งทางวัดก็อนุญาตให้ทำได้แต่ต้องทำเอง

ทางด้านพระราชวิทยาคม หรือ "หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ" เกจิอาจารย์ชื่อดัง แห่งวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน
อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหามากมายทุกชนชั้นทั่วประเทศ กล่าวถึงเรื่องการสร้าง
"ธรรมกายเจดีย์" ของวัดธรรมกาย ซึ่งกำลังมีการวิพาษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในขณะนี้ว่า เรื่องนี้เป็น
ความเชื่อและศรัทธาของแต่ละบุคคล อยู่ที่วิจารณญาณของใครของมัน

หลวงพ่อจะวางเฉย จะไปบอกว่าดีหรือไม่ดีก็ไม่กล้า "กูไม่กล้าทั้งสิ้นดอกหลานเอ๊ย" อย่างไรก็ตาม
หลวงพ่อคูณได้เตือนสติพุทธศาสนิกชนทั้งหลายว่า การบริจาคเงินเพื่อก่อสร้างสิ่งหนึ่งสิ่งใดนั้น ถ้าเป็น
การก่อสร้างสิ่งที่เป็นสาธารณะ เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไปก็จะดีที่สุด เช่น สร้างวัด ศาลาการเปรียญ
เมรุ โรงเรียน โรงพยาบาล สถานที่ราชการ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการสร้างวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่มักจะมีการอวดอ้างสรรพคุณเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ต่าง ๆ
และเรื่องโชคลาภอยู่เสมอ

หลวงพ่อคูณกล่าวว่า มันเป็นการอวดอ้างอวดดีกันมากกว่า เป็นการชักชวนให้คนหลงเชื่องมงาย ผิดหลักการ
ของศาสนา มันเป็นไปไม่ได้ วัตถุมงคลนั้นเป็นเพียงเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ให้เราคิดเลวทำชั่วลงไปเท่านั้น

"ไม่ใช่ว่าเอาวัตถุมงคลที่อ้างว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาคล้องคอแล้วก็จะมีโชค ถูกล็อตเตอรี่กันหมด มัน
เป็นการหลอกลวงทั้งสิ้น ทุกคนควรยึดมั่นในคำสอนตามหลักพระพุทธศาสนา ให้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
ไม่ใช่เรื่องการอวดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ใดๆ" หลวงพ่อคูณกล่าวเตือนสติ.


Follow Ups:



Post a Followup

Name:
E-Mail:

Subject:

Comments:

Optional Link URL:
Link Title:
Optional Image URL:


[ Follow Ups ] [ Post Followup ] [ Sensitive Forum ] [ FAQ ]