page2
ร้อง'ชวน' สอบด่วน ธรรมกาย

"อาคม"ยื่นหนังสือปรึกษาสมเด็จพระพุฒาจารย์ ขอเมตตาชี้แนะเรื่องพฤติกรรมวัดพระธรรมกาย หลังได้รับข้อร้องเรียนจำนวนมาก หลวงพ่อปัญญานันทะภิกขุเทศน์ซ้ำสอง การปฏิบัติธรรมไม่มีเรื่องบริจาคมากได้บุญมาก ชี้กรณีวัดพระธรรมกายเข้าลักษณะเมาบุญบ้าบุญมากกว่า ข้อขัดแย้งแนวบอกบุญวัดธรรมกายเริ่มขยายวงกว้าง ส่งอีเมลร้องเรียน"นายกฯชวน" ให้สั่งการตรวจสอบพฤติกรรมวัดโดยด่วน

นายอาคม เอ่งฉ้วน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งกำกับดูแลกรมการศาสนา เปิดเผยถึงการเคลื่อนไหวตรวจสอบวัดพระธรรมกายหลังจากได้รับข้อร้องเรียนขัดหลักศาสนาจำนวนมากว่า ยังไม่สามารถชี้ผิดชี้ถูกได้ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้เอื้ออำนวยให้ตรงนั้น แต่ได้มีการทำหนังสือกราบทูลสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ในฐานะเป็นสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายมหานิกาย เพื่อขอความเมตตาชี้แนะการดำเนินการ
นายอาคมกล่าวว่า เหตุที่ต้องยื่นหนังสือขอคำปรึกษาครั้งนี้ เนื่องจากว่าต้องการทราบข้อเท็จจริงว่า แนวทางการสอนศาสนาและการโฆษณาให้ประชาชนไปร่วมทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัว เพื่อนำไปวางไว้ในมหาธรรมเจดีย์ที่กำลังทำการก่อสร้างอยู่นั้นถูกต้องหรือผิดหลักการ และมีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ที่ผ่านมาไม่ปรากฎว่าพระสังฆาธิการชั้นผู้ใหญ่นั้นได้แสดงความคิดเห็นอย่างไร เพื่อจะได้นำความเมตตาชี้แนะนั้นมาประพฤติปฏิบัติกับวัดธรรมกายต่อไป โดยจะไม่มีการเสนอเรื่องเข้าสู่การประชุมของเถระสมาคมอีกแล้ว เพราะเชื่อว่าอย่างไรเสียสมเด็จพระพุฒาจารย์ก็คงนำเข้าที่ประชุมเถระสมาคมเพื่อหามติและแนวทางที่ถูกต้อง
"คิดว่าเมื่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ได้วิเคราะห์มูลเหตุต่างๆแล้ว จะสามารถหาข้อยุติในเรื่องนี้ได้ เพราะหากว่าคำเมตตาชี้แนะนั้นระบุว่าไม่เหมาะสม กรมการศาสนาก็จะยื่นมือเข้าไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและขจัดมารศาสนาให้หมดไป อย่างไรก็ดีหากว่าไม่พบหลักฐานอื่นแต่อย่างใดและสมเด็จพระพุฒาจารย์ทรงยืนยันว่าวัดพระธรรมกายดำเนินการได้อย่างถูกต้องแล้วก็จะยุติการเคลื่อนไหวตรวจสอบทันที
ด้านพระธรรมโกศาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทะภิกขุ ได้เทศน์สั่งสอนในเรื่องของการปฏิบัติธรรมว่า แนวทางการเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนของรพะพุทธเจ้านั้นของแต่ละวัดก็จะแตกต่างกันไปไม่เหมือนกัน ของวัดพระธรรมกายนั้นถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการโฆษณาชวนเชื่อทำให้เกิดความเชื่อความงมงาย โดยเฉพาะการเอาเรื่องปาฏิหารย์อภินิหารย์มาเป็นเครื่องโน้มน้าว ความจริงการโฆษณาชวนเชื่อนั้นพวกคอมมิวนิสต์เขาทำกัน ซึ่งนับวันในโลกนี้ก็จะหมดสิ้นไปแล้ว
"การทำบุญนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงิน ไม่ใช่เรื่องที่บอกว่าจ่ายเงินมากบริจาคให้วัดแล้วจะได้บุญมากกว่าคนอื่น ความจริงเรื่องนี้มาน่าจะเป็นบาปเป็นกรรมด้วยซ้ำ ยิ่งจ่ายทรัพย์จำนวนมากในภาวะเช่นนี้จะเป็นทุกข์มากถมทวี คนทำบุญที่คิดว่าจ่ายเงินจำนวนมากแล้วได้บุญมากเขาเรียกว่า คนเมาบุญบ้าบุญมากกว่า ลักษณะที่ทำกันนี้ไม่สมควร แต่ถ้าพูดกันตามตรงแล้วคนที่เขาหลอกได้มีแต่พวกปัญญาอ่อนเท่านั้นที่งมงายกับปาฏิหารย์อภินิหารย์เหล่านี้"
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีประชาชนโทรศัพท์มาแสดงความคิดเห็นในเรื่องของการปฏิบัติธรรมของวัดพระธรรมกายและการโฆษณาให้ทำบุญระบบผ่อนส่งในการสร้างพระธรรมกายประจำตัวมากมายทั้งส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ในส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของวัดพระธรรมกาย ยังได้สอบถามโฮมเพจของนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นโฮมเพจที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชน และสำหรับตอบข้อสงสัยของประชาชนทั่วประเทศด้วย โดยได้ยืนยันว่าจะส่งข้อความไปยังนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีเพื่อให้รับทราบเกี่ยวกับพฤติกรรมของสมาชิกและพระลูกวัดพระธรรมกายทั้งนี้ต้องการให้นายกฯชวนสั่งการไปยังเจ้าหน้าที่โดยตรง และให้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการแก้ไข
นอกจากนี้ในระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์เชื่อมโยงทั่วโลกก็มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าไปเผยแพร่แล้ว โดยได้มีการสร้างจุดติดต่อเกี่ยวกับเรื่องธรรมกายไว้ในโฮมเพจ Http//:i.am/surat ทั้งนี้ โดยได้มีการนำผลงานและคำสอนของพระที่ชื่อดัง 3 รูปคือ พระธรรมโกศาจารย์หรือหลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ วัดชลประทานรังสฤษดิ์,พระธรรมปิฎกหรือหลวงพ่อประยุทธ ปยุตฺโต และพระพิศาลธรรมวาทีหรือหลวงพ่อพยอม กัลยาโน แห่งวัดสวนแก้ว มาไว้ในโฮมเพจดังกล่าว โดยพระทั้ง 3 รูปต่างก็ออกมากล่าวถึงการระดมทุนของวัดว่าผิดหลักพระพุทธศาสนา
สำหรับข้อมูลในโฮมเพจ มีการยกคำสอนขึ้นมาเกี่ยวกับการหลงในอิทธิฤทธิ์ปาฎิหารย์อภินิหารย์ หรือการเช่าพระ ฯลฯ โดยไม่ใช่หลักที่แท้จริงของศาสนาพุทธ