page4
ทำบุญธรรมกายขัดหลักศาสนา

พระวัดธรรมกายคุยมีคนต่างชาติสนใจแห่สมัครเป็นอุบาสกแก้ว-อุบาสิกาแก้วหลายหมื่นคนเผยปี 2547 จะเกิดสาขาวัดพระธรรมกายกว่า 100 สาขาทั่วโลก ลูกศิษย์โต้สื่อกรณีปาฏิหาริย์หลวงพ่อสด ไม่ใช่เห็นด้วยตาเปล่า แต่เห็นโดยจิตเท่านั้น ระบุคนทำบุญมากก็ได้บุญมาก แถมทำบุญในวันสัมมนาจะได้บุญมากกว่าคนอื่น มหาจุฬาลงกรณ์ยืนยันสอนแบบนี้ขัดหลักศาสนา ที่สำคัญต้องระวังอย่าไปยึดติดวัตถุ ระยะหลังมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องบอลรูมเอ โรงแรมมารวย วัดธรรมกายได้จัดการประชุมเรื่อง "ยุทธการปิดเจดีย์" โดยมีพระสมชาย ฐานวุฒโฒ (น.พ.สมชาย วัชรศรีโรจน์) พระฝ่ายเผยแผ่พุทธศาสนาในต่างประเทศ เทศนาให้ฟังโดยมีผู้เข้าร่วมฟังประมาณ 60 คนว่า เพิ่งเดินทางกลับไทยเป็นการด่วนจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อมาตอบข้อข้องใจของพุทธศาสนิกชนโดยเฉพาะ โดยเล่าถึงผลงานที่ชาวญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน ให้ความศรัทธาสมัครเป็นอุบาสกแก้วอุบาสิกาแก้วจำนวนหลายหมื่นคน มีบางคนที่ไม่เคยให้ความสนใจเลยกลับยอมละทิ้งศาสนาเดิมมาขอบวชที่วัดธรรมกายในไทยเลย เรื่องน่ายินดีอีกเรื่องหนึ่งเป็นความภาคภูมิใจของวัดที่ได้รับเลือกเป็นประธานองค์กรยุวพุทธโลก ทั้งที่ตัวแทนของวัดธรรมกายไม่เป็นที่รู้จักเท่าใดนัก แต่ก็ได้รับความไว้วางใจจาก 14 ประเทศสมาชิก
รายงานข่าวระบุว่า ได้มีการกล่าวถึงการก่อสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ว่า เป็นธรรมดาที่ชาวโลกกำลังจับตามาที่วัดพระธรรมกาย สื่อมวลชนก็เสนอข่าวอ้อมไปอ้อมมาแต่ธรรมทายาทต้องมีความแน่วแน่ตามแนวทางที่วางไว้คือ จะก่อสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ให้แล้วเสร็จ เมื่อถึงวันนั้นก็จะถูกด่าว่าอีกว่าทำไมไม่มองอนาคตให้ยาวไกล ทำไมสร้างเจดีย์ให้รองรับคนได้เพียงล้านคน เพราะเมื่อเวลามาถึง ณ ที่แห่งนี้จะเป็นที่ชุมนุมของชาวพุทธทั่วทั้งโลกโดยเฉพาะวันที่ 22 เมษายน 2547 จะมีสาขาของวัดธรรมกายกว่า 100 ประเทศทั่วโลกมากที่สุด
ส่วนที่ถามกันมามากว่าวิชาธรรมกายมีจริงหรือไม่นั้น พระสมชาย ฐานวุฒโฒ กล่าวว่า เรื่องนี้ขอยืนยันถึงที่มาที่ไปของวิชานี้ว่ามีจริงในพระไตรปิฎก วัดได้พยายามค้นคว้าจากหลายประเทศที่มีความเป็นมาเกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ ในที่สุดก็ได้พบว่าที่ประเทศจีนมีพระไตรปิฎกอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้คัดแต่เฉพาะที่เป็นหินยานส่วนมหายานไม่ได้นำมาใช้ ด้วยเหตุที่มหายานได้มาตกแต่งเอาที่หลัง ซึ่งในพระไตรปิฎกของจีนมีความชัดเจนและอ้างถึงธรรมกายได้ถูกต้อง
นอกจากนี้กรณีที่มีคนเข้าใจว่าวัดธรรม กายมีเงินมากนั้น ขอแจ้งให้ทราบว่าวัดไม่ได้มีเงินเหลือเก็บเป็นจำนวนมาก เพราะเงินที่ได้มานี้นำไปทำประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค ไม่ได้นำมาเก็บจึงมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ความจริงแล้วมีวัดอีกมากที่มีเงินเก็บมากกว่าธรรมกาย
ในวันเวลาเดียวกัน วัดพระธรรมกายยังได้จัดสัมมนาเรื่องสร้างพระภายในใจสู้ภัยปี 2000 โดยมีนายเกษมสุข ภมรสถิตย์ นักธุรกิจส่งออกสิ่งทอมาเป็นผู้บรรยายและตอบคำถามแก่สมาชิกวัดพระธรรมกาย มีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมากประมาณ 100 กว่าคน การบรรยายได้พยายามนำภาวการณ์ปัจจุบันมาเป็นเหตุ โดยเฉพาะในเรื่องของการฆ่าตัวตายที่ระบาดหนักว่าไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหานี้ให้หายขาดได้ แต่สามารถที่จะทำให้ทุเลาลงไป
นายเกษมสุขกล่าวว่า สถานการณ์ในปัจจุบันนี้จำเป็นต้องโน้มน้าวและดึงดูดให้ประชาชนเข้าวัดให้มากขึ้น อย่างหนึ่งที่เชื่อว่าจะสามารถผ่อนคลายการฆ่าตัวตายลงไปได้นั้นก็คือ การสร้างพระประจำกาย และนำคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้ามาอบรมประชาชนให้มากขึ้น การสร้างพระจะก่อให้เกิดความสงบสุขได้ 2 ประการคือ 1. สร้างพระในใจ 2. เข้ากายองค์พระ คือการกำหนดจิตซึ่งจะทำให้เกิดผลบุญ 1,000 %
"ที่สื่อมวลชนโจมตีกันเรื่องปาฏิหาริย์ นั่งสมาธิแล้วจะมองเห็นได้ด้วยตานั้นเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง การนั่งสมาธิของวัดธรรมกายนั้นใช้กำหนดจิตมาอยู่ที่กลางกาย และจะได้พบเห็นโดยจิต ไม่ใช่เห็นด้วยตาเปล่า ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปาฏิหาริย์แต่อย่างใด"
นายเกษมสุขระบุด้วยว่า ผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างพระประจำกายรับรองได้ว่าจะรวยเป็นเศรษฐีได้ทุกคน ไม่ต้องรอชาติหน้าแต่ชาตินี้ต้องประสบแน่ เพราะตนเองก็เคยมาแล้ว หากใครก็ตามที่ทำบุญในวันนี้เพื่อสร้างพระประจำกายจะได้บุญมากกว่าวันอื่น ๆ อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันพระมหาบุญถึง ชุตินฺธโร ผู้อำนวยการกองปฏิบัติศาสนกิจในประเทศ และ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เปิดเผยว่าการที่กล่าวว่าถ้าทำบุญมากได้บุญมากก็ไม่ตรงหลักศาสนาเช่นกัน เพราะการทำบุญนั้นไม่ได้อยู่ที่จำนวนของเงินที่ทำ เพราะบางคนทำเอาหน้าก็ไม่ได้บุญ โดยเหตุจะได้บุญมากหรือน้อยต้องอยู่ที่ก่อนทำมีความเลื่อมใส ระหว่างทำมีความยินดี และหลังทำมีความเบิกบาน และบุญที่ถือว่าเป็นยอดแห่งบุญคือการทำสังฆทานโดยไม่จำเพาะเจาะจง
ส่วนการก่อสร้างวัดในสมัยพุทธกาลมาแล้ว ส่วนใหญ่ญาติโยมหรือผู้มีจิตศรัทธาจะสร้างถวาย แต่ถ้าเกินกำลังก็อาจขอให้พระภิกษุเป็น ผู้ช่วยเหลือ แต่ในขณะนี้เป็นหน้าที่ของวัดแทน ซึ่งอาจเป็นเพราะชาวพุทธไม่มีเวลาดูแลวัด แต่การสร้างศาสนาวัตถุต้องพิจารณาทางสายกลางคือให้มีความพอดีไม่ใช่สร้างใหญ่โตเกินไป
"ในศาสนาอื่นจะมีการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โตมากและมีเมืองเป็นศูนย์กลางศาสนาเช่นนครรัฐวาติกันของศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลามก็มีนครเมกกะ ส่วนของพุทธศาสนาความจริงแล้วก็มีพุทธมณฑลเป็นศูนย์กลาง มีพระพุทธรูปใหญ่สุด"
ปัญหาในขณะนี้ พระมหาบุญถึงกล่าวว่าประชาชนควรที่จะสนใจธรรมะ และนำมาแก้ไขปัญหาที่เป็นอยู่มากกว่ายึดติดกับวัตถุ โดยการสละทรัพย์ก็มีประโยชน์ตรงที่ทำให้จิตใจมีความเสียสละ อ่อนโยน แต่ทว่าต้องมีขอบเขต มีทางสายกลางไม่ใช่จะทำแบบไม่มีสติ มีเท่าไหร่ทำหมด โดยเฉพาะอย่าเอาเรื่องปาฏิหาริย์มาเกี่ยว เพราะพระพุทธเจ้าห้ามแสดงไว้ ที่สำคัญต้องระวังอย่าไปยืดติดไม่ว่าจะเป็นวัตถุหรืออาจารย์ โดยการเข้าไปหาพระควรเข้าไปหาธรรมะมากกว่า แต่ระยะหลังมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาทำให้เกิดการหลง.